ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
ยอดป้ายแดงรถ EV จ่อพุ่ง 2 เท่า รับแพจเกจภาษีใหม่
24 ก.พ. 2565

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าแนวโน้มการจดทะเบียนใหม่หรือยอดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้า(EV) ในไทยปี 2565 มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลได้ประกาศมาตรการส่งเสริมการใช้อีวี และการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยานยนต์ทั้งระบบใหม่ โดยคาดจะมียอดจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 คันซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีประมาณ 1,900 คันหรือเติบโตประมาณ 2 เท่าตัว โดยในช่วงแรกค่ายรถยนต์จะนำเข้ารถรุ่นใหม่ๆ ที่มีราคาต่ำราว 3-6 แสนบาทต่อคันมาทำตลาดมากขึ้น

การประกาศโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ที่แม้ว่าจะไม่ได้ชื่อว่าเป็นรถ Eco Car แต่ก็อยู่ในกลุ่มของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำ ดังนั้นอัตราภาษีจะไม่สูงถือเป็นทางเลือกอย่างหนึ่งของประชาชนได้

สำหรับการจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนมกราคม 2565 มีจำนวน 628 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคมปีที่แล้วร้อยละ 74.44  ขณะที่ยอดจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 มกราคม 2565 ณ วันที่ 31 มกราคม 2565 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 12,005 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 100.58

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการผลิตรถยนต์ทั้งหมดในประเทศเดือนมกราคม 2565 มีทั้งสิ้น 151,747 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 2.45 แต่ลดลงจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 1.70 โดยเพิ่มขึ้นจากการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.88 และมีสัดส่วนเดือนนี้ถึงร้อยละ 49.23 ของยอดผลิตเพราะการผลิตส่งออกรถยนต์นั่งยังคงขาดเซมิคอนดักเตอร์ จึงผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกลดลงจากมกราคมปีที่แล้วร้อยละ 58.24

ด้านยอดขายรถยนต์เดือนมกราคม มีจำนวนทั้งสิ้น 69,455 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2564 ร้อยละ 19.37 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 25.8 มีปัจจัยจากรัฐบาลได้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด19 การประกันรายได้เกษตรกร การกระตุ้นเเศรษฐกิจ เช่น คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ยิ่งใช้ยิ่งได้ ฯลฯ และการผ่อนคลายการล็อกดาวน์ รวมทั้งการส่งเสริมการขายของผู้จำหน่ายรถยนต์ และการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดว่าในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนจะช่วยให้ยอดขายไตรมาสแรกเติบโตขึ้น

ขณะที่การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือนมกราคมมีจำนวน 69,833 คัน โดยลดลงจากเดือนที่แล้ว ร้อยละ 31.07 และลดลงจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 5.80 เนื่องจากการผลิตรถยนต์นั่งลดลงถึง ร้อยละ 58.24 จากการขาดเซมิคอนดักเตอร์ ส่งผลให้ส่งออกลดลงเกือบทุกตลาดยกเว้นตลาดออสเตรเลียและอเมริกากลางอเมริกาใต้ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.09 และ 78.75 ตามลำดับ ?โดยมีมูลค่าการส่งออก 42,773.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 3.2 เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,942.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม 2564 ร้อยละ 38.39

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...