พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังจากที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปตรวจราชการยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า นายกรัฐมนตรีพอใจผลการเดินทางไปที่ จ.อุบลราชธานีเป้นอย่างมาก เนื่องจากได้รับทราบว่า การดำเนินมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยประชาชนได้รับประโยชน์จากมาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล (ตำบลละ 5 ล้านบาท) และระดับหมู่บ้าน (กองทุนหมู่บ้าน) เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ และกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชน
“ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ปรารภว่า จะหาโอกาสลงพื้นที่เพื่อไปเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนให้มากขึ้น เพราะทำให้ได้เห็นความสำเร็จและสภาพปัญหาที่แท้จริงของประชาชนในจังหวัดต่างๆ และรู้สึกมีกำลังใจ เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของประชาชน ท่านนายกฯอยากให้จังหวัดอื่นได้นำกรณีตัวอย่างของชาวบ้านที่อุบลราชธานี เรื่องการนำเงินที่ได้รับจากมาตรการของรัฐไปลงทุนในกิจการที่สร้างรายได้ เช่น เปิดร้านขายของ ร้านตัดผม ทำรถเข็นขายกาแฟ เพื่อสร้างความยั่งยืน ไปเป็นต้นแบบ พร้อมทั้งได้กำชับให้ส่วนราชการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณที่ยังมีความล่าช้าให้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะมาตรการตำบลละ 5 ล้านบาท และโครงการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท แต่ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้”
พลตรี สรรเสริญ เปิดเผยอีกว่า การอนุมัติเงินตามมาตรการตำบลละ 5 ล้านบาท ให้ทุกจังหวัดรวมทั้งสิ้น 19,156.36 ล้านบาท จากทั้งหมด 36,275 ล้านบาท ส่วนการเพิ่มทุนให้แก่กองทุนหมู่บ้าน มีการเบิกจ่ายเงินให้กองทุนแล้ว 36,888 กองทุน วงเงิน 35,708 ล้านบาท จากทั้งหมด 40,460 กองทุน วงเงิน 39,150.93 ล้านบาท ขณะที่โครงการลงทุนละ 1 ล้านบาท มีการจัดสรรงบประมาณให้ทุกจังหวัดแล้ว 40,318.5 ล้านบาท