ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
กาญจนบุรี ยาแรงกรมอุทยานฯ คาดโทษหนักจุดไฟเผาป่า คุก 30 ปี ปรับ 3 ล้าน ในวันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า 24 ก.พ.
25 ก.พ. 2565

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “วันรณรงค์ให้ปลอดควันพิษจากไฟป่า 24 กุมภาพันธ์” ณ ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่ากาญจนบุรี ตามนโยบาย “ทส.ยกกำลัง X” และ “ทส.หนึ่งเดียว” ของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และข้อสั่งการของนายจตุพร  บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ดำเนินการยกระดับการแก้ไขปัญหาไฟป่าอย่างยั่งยืน 

โดยมีนายชัชวาล ศิริสมบัติ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า เจ้าหน้าที่ สบอ.3 (บ้านโป่ง) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี และตัวแทนเครือข่ายการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ให้การต้อนรับ

โดยกิจกรรมในงานมีการมอบของที่ระลึกให้กับตัวแทนเครือข่ายการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จำนวน 5 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านช่องสะเดา บ้านพุม่วง บ้านพุพง บ้านท่ากะทิ และบ้านแก่งปลากด จังหวัดกาญจนบุรี และกิจกรรมปล่อยแถวกำลังพลและขบวนรถประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่ 
เพื่อออกรณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ทราบถึงแนวทางการป้องกันไฟป่า และผลกระทบของควันพิษจากไฟป่า เป็นการบูรณาการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการร่วมกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่า อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หน่วยป้องกันรักษาป่า และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ จำนวน 150 คน

อีกทั้งยังได้ร่วมกันติดป้ายประชาสัมพันธ์ "จุดไฟเผาในเขตป่าอนุรักษ์ มีโทษจำคุกสูงสุด 30ปี ปรับสูงสุด 3 ล้านบาทว่าหากมีบุคคลใดแจ้งเบาะแสการเผาป่าในเขตป่าอนุรักษ์ และสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ จะได้รับเงินรางวัลสินบนนำจับ จำนวน 1 หมื่นบาท จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง)"

ทีมข่าวกาญจนบุรี

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...