นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการขยะมูลฝอยบนเกาะหลีเป๊ะ โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสาหร่ายได้ดำเนินการจัดการขยะมูลฝอย โดยจ้างเหมาบริษัท กำจัดขยะมูลฝอยชุมชนเกาะหลีเป๊ะ จำกัด ปีละ 6 ล้านบาท เป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บ รวบรวม คัดแยก และขนส่งขยะมูลฝอยขึ้นฝั่งโดยใช้เรือบาร์จ ไปกำจัดที่ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจร เทศบาลตำบลกำแพง อำเภอละงู ค่าใช้จ่ายกำจัดปีละ 2 ล้านบาท โดยปริมาณขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นบนเกาะหลีเป๊ะช่วงเดือนมิถุนายน - เดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (Low Season) ประมาณ 15 ตันต่อวัน และช่วงเดือนตุลาคม - เดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) ประมาณ 20 ตันต่อวัน
สำหรับในปี 2564 เนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อ COVID-19 ทำให้ปริมาณขยะมูลฝอยมีจำนวนลดน้อยลงมาก จึงทำให้ปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยลดน้อยลง แต่ปัจจุบันเริ่มมีนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้นทำให้ปริมาณขยะมูลฝอยเพิ่มมากขึ้น โดยในการจัดการขยะมูลฝอยบนเกาะหลีเป๊ะประกอบด้วยโรงคัดแยกขยะมูลฝอยของบริษัทฯมีพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ คัดแยกได้ร้อยละ 35- 45 ของปริมาณขยะมูลฝอยทั้งหมด ขยะมูลฝอยที่เหลือนำส่งไปกำจัดบนฝั่งซึ่งรวมขยะอินทรีย์จำพวกเศษอาหาร เฉลี่ยวันละ 9 ตัน ช่วงปกติขนย้ายเดือนละ 2 ครั้ง ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวขนย้ายเดือนละ 3 ครั้ง
สำหรับสภาพปัญหาของการบริหารจัดการขยะมูลฝอยบนเกาะหลีเป๊ะ คือการจัดการขยะที่ต้นทาง ครัวเรือนและสถานประกอบการมีการคัดแยกขยะมูลฝอยค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่ทิ้งขยะมูลฝอยรวมไว้ในถุงเดียวกัน การจัดการขยะมูลฝอยกลางทาง ไม่มีระบบจัดเก็บรวมรวมและขนส่งแบบแยกประเภท ทำให้มีกลิ่นเหม็น การขนส่งขยะมูลฝอยขึ้นฝั่งลงเรือบรรทุก ณ บริเวณหาดชาวเลมีมาตรการป้องกันการปลิวของขยะมูลฝอยไม่ดีพอ และขยะมูลฝอยที่นำส่งไปกำจัด ณ ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจร เทศบาลตำบลกำแพง ไม่มีการคัดแยก มีการปนเปื้อนเศษอาหาร ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น ทำให้ระบบกำจัดปลายทางไม่สามารถคัดแยกได้ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการฝังกลบใกล้เต็มที่
โดยในที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนตามข้อสั่งการของอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เพื่อการติดตามแก้ไขปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยและน้ำเสียบนเกาะหลีเป๊ะให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการขยะมูลฝอยบนเกาะหลีเป๊ะ โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสาหร่ายได้ดำเนินการจัดการขยะมูลฝอย โดยจ้างเหมาบริษัท กำจัดขยะมูลฝอยชุมชนเกาะหลีเป๊ะ จำกัด ปีละ 6 ล้านบาท เป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บ รวบรวม คัดแยก และขนส่งขยะมูลฝอยขึ้นฝั่งโดยใช้เรือบาร์จ ไปกำจัดที่ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจร เทศบาลตำบลกำแพง อำเภอละงู ค่าใช้จ่ายกำจัดปีละ 2 ล้านบาท โดยปริมาณขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นบนเกาะหลีเป๊ะช่วงเดือนมิถุนายน - เดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (Low Season) ประมาณ 15 ตันต่อวัน และช่วงเดือนตุลาคม - เดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) ประมาณ 20 ตันต่อวัน
สำหรับในปี 2564 เนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อ COVID-19 ทำให้ปริมาณขยะมูลฝอยมีจำนวนลดน้อยลงมาก จึงทำให้ปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยลดน้อยลง แต่ปัจจุบันเริ่มมีนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้นทำให้ปริมาณขยะมูลฝอยเพิ่มมากขึ้น โดยในการจัดการขยะมูลฝอยบนเกาะหลีเป๊ะประกอบด้วยโรงคัดแยกขยะมูลฝอยของบริษัทฯมีพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ คัดแยกได้ร้อยละ 35- 45 ของปริมาณขยะมูลฝอยทั้งหมด ขยะมูลฝอยที่เหลือนำส่งไปกำจัดบนฝั่งซึ่งรวมขยะอินทรีย์จำพวกเศษอาหาร เฉลี่ยวันละ 9 ตัน ช่วงปกติขนย้ายเดือนละ 2 ครั้ง ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวขนย้ายเดือนละ 3 ครั้ง
สำหรับสภาพปัญหาของการบริหารจัดการขยะมูลฝอยบนเกาะหลีเป๊ะ คือการจัดการขยะที่ต้นทาง ครัวเรือนและสถานประกอบการมีการคัดแยกขยะมูลฝอยค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่ทิ้งขยะมูลฝอยรวมไว้ในถุงเดียวกัน การจัดการขยะมูลฝอยกลางทาง ไม่มีระบบจัดเก็บรวมรวมและขนส่งแบบแยกประเภท ทำให้มีกลิ่นเหม็น การขนส่งขยะมูลฝอยขึ้นฝั่งลงเรือบรรทุก ณ บริเวณหาดชาวเลมีมาตรการป้องกันการปลิวของขยะมูลฝอยไม่ดีพอ และขยะมูลฝอยที่นำส่งไปกำจัด ณ ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยแบบครบวงจร เทศบาลตำบลกำแพง ไม่มีการคัดแยก มีการปนเปื้อนเศษอาหาร ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น ทำให้ระบบกำจัดปลายทางไม่สามารถคัดแยกได้ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการฝังกลบใกล้เต็มที่
โดยในที่ประชุมได้ร่วมพิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนตามข้อสั่งการของอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เพื่อการติดตามแก้ไขปัญหาการจัดการขยะมูลฝอยและน้ำเสียบนเกาะหลีเป๊ะให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น