คณะกรรมาธิการศึกษาและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษบ้านพุน้ำร้อน รับว่าก้าวหน้าไปมากเกิน 60 เปอร์เซ็นต์ ติดเพียงปัญหาเรื่องที่ดินเท่านั้น ต้องหาเจ้าภาพมาดูแล ไม่เช่นนั้นอาจจะเหมือนโฮกเวย์
วันนี้ 8 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสำนักงานด่านศุลกากร บ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี นายไชยา พรหมา ประธานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำ และติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง และคณะ ลงพื้นที่ศึกษาดูงานและติดตามการดำเนินงานความคืบหน้าการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษบ้านพุน้ำร้อน – ท่าเรือน้ำลึกทวาย ประเทศเมียนมา โดยมี นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมเดินทางในครั้งนี้ โดยนายสมหวังได้กล่าวถึงโครงการด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อนแห่งนี้ พบว่าปัญหาเกิดจากปัญหาการเวนคืนที่ดินมีหลายหน่วยงานเข้าไปพัวพัน ประกอบด้วย พื้นที่ราชพัสดุ สปก. ทหาร และที่ดินของประชาชน มันจึงเกิดปัญหาค้างคามานานนับสิบปีที่ยังไม่สามารถเปิดได้
โดยคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ได้ลงติดตามความคืบหน้าการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ บ้านพุน้ำร้อนแห่งนี้ โดยหน่วยงานแต่ละหน่วยแจ้งในที่ประชุมให้ทราบถึงปัญหาต่างๆ และพบว่ามีความคืบหน้าเกิน 60 เปอร์เซ็นต์ ติดอยู่คือยังหาเจ้าภาพที่แท้จริงไม่ได้ ติดปัญหาเรื่องที่ดิน เมื่อคณะรับทราบแล้วจะนำไปหารือกับรัฐบาลให้แก้ไขเรื่องที่ดินทับซ้อนจากหลายหน่วยงาน ทั้งที่ดินราชพัสดุ ที่ดินของสปก. พื้นที่ทหารขอใช้ และที่ดินประชาชน งบประมาณหากจะเวนคืนคงต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก ปล่อยให้จังหวัดรับผิดชอบเพียงลำพังคงไม่ไหว ดังนั้นรัฐบาลจะต้องจัดการให้ชัดเจน หกาปล่อยเช่นนี้ อาจจะเหมือนกับโครงการโฮกเวย์ ซึ่งหากโครงการแล้วเสร็จจะเกิดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ จะไปสู่การพัฒนาของประเทศเป็นอย่างมาก
จากนั้นคณะของ นายไชยา พรหมา ได้เดินทางไปตรวจดูภายในโครงการบ้านพุน้ำร้อน และช่องทางไปสู่ท่าเรือน้ำลึก เมืองทวาย และยอมรับว่าได้มีการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ อดีตตนเองได้เคยมาช่วงนั้นบริเวณนี้ยังเป็นป่ารกทึบมากๆ ปัจจุบันคืบหน้าไปมากเลย แต่น่าเสียดายที่ติดขัดปัญหาบางอย่าง โดยเฉพาะในพื้นที่เพื่อนบ้านเองก็ปลดล็อกไปแล้วไม่มีปัญหา แต่ของเราต้องเร่งแก้ไขเป็นการเร่งด่วนเพื่อโครงการจะได้สมบูรณ์เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ หากปล่อยเช่นนี้รายได้เข้ามาน้อยมากไม่คุ้มค่า
ทั้งด้านการคมนาคมโครงการมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ในเส้น M 81 ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 72% คาดว่าจะสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ภายในปี 2566 นี้ หากดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถใช้เป็นเส้นทางหลักเชื่อมโยงในการขนส่งสินค้า จากชายแดนจังหวัดกาญจนบุรี ไปยังภูมิภาคอื่นๆได้ ส่วนพื้นที่ด่านชายแดน ได้มีการตั้งส่วนของพื้นที่ที่ใช้ในราชการ ทั้งอาคารที่ทำการสำนักงานด่านศุลกากร ศูนย์ประสานงานเพื่อความมั่นคง นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการก่อสร้างที่ทำงานของส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านสาธารณูปโภค ทั้งระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ โครงข่ายคมนาคม เครือข่ายโทรคมนาคม และจุดจำหน่ายสินค้าในโครงการก่อสร้างตลาดการค้าชายแดนเพื่อขับเคลื่อนเศรษกิจอีกด้วย
โอกาสนี้ นายไชยา พรหมา ยอมรับว่าวันนี้จุดด่านบ้านพุน้ำร้อนมีความพร้อมมาก ต้องยอมรับว่าโครงการนี้จะสำเร็จหรือไม่นั้น ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับประเทศไทยเพียงอย่างเดียว จากการฟังการรายงานจากจังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดใกล้เคียง เช่นราชบุรี ซึ่งต้องเกี่ยวข้องกันนั้น หากกาญจนบุรี นี้เกิดสมบูรณ์ คลัสเตอร์นี้จังหวัดใกล้เคียงก็ได้รับประโยชน์ไปเช่นกัน ปัญหาที่เกิดจากไม่สามารถเปิดด่านถาวรได้นั้นคือ เกิดจากนโยบายเพื่อนบ้านส่วนหนึ่ง แต่ก็ทราบว่า ทวายโปรเจ็กต์ ผู้ประกอบการ และผู้รับสัมประทาน มีปัญหาในด้านงบประมาณ และก็ทราบว่าเวลานี้เพื่อนบ้านได้ปรับเปลี่ยนนโยบายไปแล้ว แล้วโครงการนี้ก็จะดำเนินการไปตามปกติ ในขณะเดียวกันเมืองไทยเราในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน เรื่องการเตรียมพื้นที่โดยเฉพาะจังหวัดกาญจนบุรี จะต้องประกาศเป็นเขตพัฒนาพิเศษ มันจะต้องเกี่ยวข้องในการจัดการพื้นที่ ทราบว่าอุปสรรคเวลานี้คือยังไม่มีกฎหมายรองรับในความชัดเจน ในฐานะกรรมมาธิการ อยากจะเห็นการแก้ไขปัญหานี้ อยากเห็นรูปแบบของหน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแลรับผิดชอบ เหมือนกับที่ อีอีซี ซึ่งมีกฎหมายพิเศารองรับ โดยเฉพาะปัญหาที่เราพบอยู่เวลานี้คือปัญหาการจัดการเรื่องที่ดิน เนื่องจากที่ดินที่จะต้องขีดวงเป็นฝังเมืองสำหรับเขตพัฒนาพิเศษนั้น มันไปเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ มีทั้งกฎหมายปฏิรูปที่ดิน กฎหมายป่าไม้ พื้นที่ทหาร พื้นที่ราชพัสดุต่างๆ เพราะฉนั้นโครงการนี้จะต้องมีเจ้าภาพหลักในการแก้ไข และในการที่จะต้องมีกฎหมายรองรับเหมือนกับ อีอีซี ซึ่งเราได้ประกาศพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษทั่วประเทศ ไม่ว่าหนองคาย มุกดาหาร นครพนม ตาก สระแก้ว หรือจังหวัดอื่นๆ ที่เป็นพื้นที่เป้าหมายอยู่ติดชายแดน มันควรที่จะมีหน่วยงานหลักๆ ที่เป็นหน่วยงานที่เป็น One Stop Service สามารถที่จะบริหารจัดการ ไม่ใช่ปล่อยปัญหานี้กับจังหวัด ให้ไปแก้ปัญหาเอง เพราะแต่ละจังหวัดนั้นมันแตกต่างกัน และพื้นที่ปัญหาไม่เหมือนกัน ดังนั้นปัญหากฎหมายที่จะต้องแก้รัฐบาลจะต้องมีกฎหมายพิเศษ เพื่อให้การขับเคลื่อนการแก้ปัญหานี้สามารถที่จะดำเนินการได้ เรามาที่กาญจนบุรี พบว่าปัญหาที่หนักหน่วงตั่งแต่เริ่มโครงการ การส่งมอบพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม พะท้นที่เชิงพาณิชย์ หรือพื้นที่เป็นที่ตั้งของด่านศุลกากร ก็มีปัญหาเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายเรื่องด้วยกัน โดยเจ้าหน้าที่ที่จะมารองรับที่ด่านศุลกากรบ้านพุน้ำร้อนเวลานี้มีความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ที่จะสำเร็จอยู่ได้นั้น ดังเช่นตัวเลขนำเข้าส่งออกด่านแห่งนี้น้อยมากมูลค่าด้านเศรษฐกิจน้อยมาก เนื่องจากติดปัญหาประเทศเพื่อนบ้านเรา ดังนั้นความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านเราจะต้องมาคุยกัน มิติการพัฒนาเพื่อนบ้านต้องมาคุยกัน โดยเฉพาะปัญหาชายแดน นายไชยา พรหมา กล่าวทิ้งท้าย
ทีมข่าวกาญจนบุรี