นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ครั้งที่ 1/2565 ว่า จากรายงานผลการดำเนินการในรอบ 2 ปีตั้งแต่คณะกรรมการชุดมารับผิดชอบการดำเนินการของคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จนถึงปัจจุบันมีสมาชิกที่เป็นเกษตรกรที่มาขึ้นทะเบียนกับกองทุน 5,670,659 ราย และที่ขึ้นทะเบียนในรูปองค์กรเกษตรกร 56,284 องค์กร โดยขึ้นทะเบียนหนี้ เพื่อขอให้กองทุนแก้ปัญหาให้จำนวนเกษตรกร 535,871 ราย คิดเป็น 769,220 บัญชี วงเงินหนี้ 107,119 ล้านบาท
ซึ่งผลการดำเนินการในรอบ 2 ปีของกรรมการชุดนี้ ประการที่หนึ่ง คือ แก้ปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกรไปแล้วรวมทั้งสิ้น 1,857 ราย วงเงินหนี้ 1,514 ล้านบาท แยกเป็นการเข้าไปซื้อหนี้จากสถาบันการเงินแล้วให้เกษตรกรมาเป็นหนี้กองทุนแทนให้ไม่มีภาระดอกเบี้ยและไม่มีการยึดที่ดินจนกว่าเกษตรกรจะผ่อนชำระได้ 1,695 ราย วงเงิน 1,347 ล้านบาท กองทุนเข้าไปซื้อทรัพย์สินที่ถูกยึดหรือกำลังดำเนินการไปขายทอดตลาดจำนวน 162 ราย วงเงิน 167 ล้านบาท ถือว่ามีความก้าวหน้ามากยุคหนึ่งในการแก้ปัญหาให้เกษตรกรในวงเงินจำกัดเท่าที่กองทุนฟื้นฟูจะมี ซึ่งสามารถช่วยให้เกิดการชะลอฟ้องหรือไม่ถูกฟ้องและชะลอการขายทอดตลาด 11,472 ราย วัตถุประสงค์ของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรไม่ได้เพียงแก้ปัญหาหนี้สิน แต่เมื่อแก้ปัญหาหนี้สินได้บางส่วนแล้ว ยังมีนโยบายเข้าไปพัฒนาฟื้นฟูชีวิตเกษตรกรด้วย การจัดโครงการพัฒนา เพื่อให้ฟื้นตัวได้หลังใช้หนี้แล้ว โดยเห็นชอบ 551 โครงการ วงเงิน 313 ล้านบาท ช่วยเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนได้ 9,107 ราย
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร มีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการหนี้ ซึ่งเป็นกลไกของกรรมการชุดใหญ่ไปดำเนินการแก้ปัญหาหนี้สินให้แก่เกษตรกรเพิ่มเติมอีก 5,277 ราย วงเงิน 3,533 ล้านบาท พร้อมมีมติให้คณะกรรมการหนี้ซื้อทรัพย์เพิ่มเติมอีก 35 ราย ที่เป็นหนี้เอ็นพีเอวงเงิน 52.7 ล้านบาท และมติให้ปรับปรุงระเบียบของกองทุนฟื้นฟูฯ เพื่อให้สามารถซื้อทรัพย์ช่วยเหลือเกษตรกรซื้อทรัพย์ที่หลุดมือเกษตรกร และมีการขายต่อไปหลายทอด แต่เกษตรกรยังหวังจะได้รับที่ดินกลับคืน โดยให้กองทุนฯสามารถซื้อทรัพย์ที่เป็นที่ดินเกษตรกรเดิมที่ถูกขายไปหลายทอดมาเป็นของกองทุนและให้เกษตรกรเจ้าของที่ดินเดิมมาผ่อนชำระกับกองทุน เพื่อให้ที่ดินทำกินไม่ตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น
อีกมติได้เห็นชอบการจัดสรรงบกลาง ที่กระทรวงเกษตรฯและกองทุนฯได้ขอไปยังคณะรัฐมนตรี โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้ว ให้สามารถใช้วงเงิน 2,000 ล้านบาทได้ โดยที่ประชุมเห็นชอบให้สามารถนำงบ 2,000 ล้านบาท ไปดำเนินการต่อไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แบ่งเป็นงบบริหารจัดการสำนักงานกองทุน 230.8 ล้านบาท แก้ปัญหาหนี้สินให้เกษตรกร 1,500 ล้านบาท มีเกษตรกรเป้าหมาย 3,425 รายและใช้ในโครงการฟื้นฟูพัฒนาชีวิตเกษตรกร 269 ล้านบาท โดยมีองค์กรที่รอขอโครงการ 776 องค์กร มีสมาชิกรวม 42,034 ราย