#CSRcontent : โดย มนวิภา จูภิบาล กรรมการบริษัท วีอาร์ทวินส์ จำกัด
ESG Café
Waterhouse Restaurant, Hackney, London ตัวอย่างของร้านอาหารที่ให้ความสำคัญกับ Environment, Social และ Governance ครบถ้วนกระบวนความ ก่อตั้งขึ้นโดยองค์กรการกุศล East London Shoreditch Trust ในปี 2008 ในฐานะองค์กรเพื่อสังคม จุดเด่นของร้านนอกจากภาพลักษณ์ ESG แล้ว ยังเป็นสถานที่ฝึกอบรมเชฟรุ่นเยาว์ รายได้จากร้านสนับสนุนโครงการต่างๆ ของ Shoreditch Trust เพื่อประโยชน์ของท้องถิ่นในเรื่อง local food, local energy และ local residents เช่น การอบรมเชฟ การทำและจัดส่งอาหารให้ชุมชน การให้คำปรึกษาสำหรับคุณแม่มือใหม่ การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้รอดชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต การอนุรักษ์คลอง เป็นต้น
Environment: เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในการจัดหา Waterhouse เสิร์ฟเมนูปรุงสดใหมที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นและตามฤดูกาล เนื้อสัตว์ ปลา ผัก และผลไม้มาจากซัพพลายเออร์ในท้องถิ่น ซึ่งต่างมีนโยบายลดปริมาณบรรจุภัณฑ์ให้น้อยที่สุด ซื้อเบียร์จากโรงเบียร์ Redchurch Brewery ในบริเวณใกล้เคียง กรองและบรรจุขวดน้ำดื่มเองทั้งหมดในพื้นที่ กล่องอาหารที่ซื้อกลับบ้านสามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ รวมทั้งรีไซเคิลเศษอาหารโดยใช้เครื่องหมักอาหาร ร้าน Waterhouse ถูกออกแบบก่อสร้างโดยคํานึงถึงสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงานมาตั้งแต่ต้น ใช้วัสดุธรรมชาติ เฟอร์นิเจอร์ท็อปไม้ ออกแบบอย่างเรียบง่ายและทันสมัย ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนชั้นดาดฟ้าให้พลังงาน รวมไปถึงการทำน้ำร้อนของห้องครัว ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน พื้นร้านใช้ยางรีไซเคิล ห้องน้ำออกแบบอย่างใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ระเบียงริมน้ำของร้าน ยังสร้างให้เป็นเกาะที่เอื้อให้สัตว์น้ำกลับมาใช้ชีวิตตามธรรมชาติ ซึ่งดำเนินการโดย Canal and River Trust ทั้งหมดนี้ช่วยเสริมให้ Waterhouse เป็นร้านอาหารที่ปราศจากคาร์บอนแห่งแรกของโลก
Social: Waterhouse เป็น show case ของ Shoreditch Trust ที่มีภารกิจสนับสนุนชุมชนใน Hackney และเขตใกล้เคียงเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี พัฒนาเครือข่ายสังคม สร้างทักษะ และโอกาสสําหรับการทำงานที่มีความหมายกับพวกเขา Waterhouse เป็นเจ้าภาพการฝึกอบรม Blue Marble ซึ่งจัดให้คนหนุ่มสาวที่ต้องเผชิญกับปัญหาในชีวิตได้มีโอกาสเป็นเชฟมืออาชีพหรือกลับไปศึกษาต่อ ส่วนหนึ่งของการอบรมคือเรื่องการแพ้อาหารที่เชฟทุกคนจะต้องเรียนรู้และผ่านการรับรอง ร้านมั่นใจว่ารู้ส่วนผสมทุกอย่างในอาหารแต่ละจาน ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อเสิร์ฟอาหารสำหรับทุกคนได้อย่างปลอดภัย นอกจากคนหนุ่มสาวแล้ว ร้านอาหารยังสนับสนุนโครงการช่วยเหลือผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปที่กําลังประสบปัญหาเรื่องความรู้สึกว่าถูกตัดขาดจากชุมชน
Governance: กิจกรรมของ Waterhouse และ Shoreditch Trust ตั้งอยู่บนค่านิยม 5 ประการได้แก่ 1. ความเสมอภาค ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดีและเติมเต็มสิ่งที่ขาด สนับสนุนให้ผู้คนตระหนักถึงโอกาสและเอาชนะอุปสรรคเพื่อใช้ศักยภาพของพวกเขาให้เต็มที่ 2. การเชื่อมความสัมพันธ์ การสร้าง connection ให้ผู้คนมาร่วมกันในกิจกรรมต่างๆ เป็นหัวใจสําคัญในการสร้างความไว้วางใจ อันจะเพิ่มคุณค่าให้กับงานและชีวิตของพวกเขา 3. ความเห็นอกเห็นใจ ทุกคนควรได้รับการปฏิบัติด้วยความเอื้อเฟื้อและความเคารพต่อกัน การสนทนาอย่างตรงไปตรงมามีความสําคัญพอๆกับการให้กําลังใจ 4. ความเป็นอิสระ ส่งเสริมให้ผู้คนสามารถตัดสินใจและพัฒนาตัวเองได้อย่างชาญฉลาด และ 5. ความยืดหยุ่น มุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของผู้คน ด้วยความเข้าใจว่าในชีวิตจริงไม่มีอะไรที่เหมาะกับทุกคน
ร้านอาหารในประเทศไทยก็มีตัวอย่างที่ดีที่เรียกว่า ESG Café ได้เช่นกัน อยู่ในรูปของวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) หรือ SE โมเดลธุรกิจที่มีเป้าหมายหลักเพื่อพัฒนา ช่วยเหลือ หรือแก้ไขปัญหาสังคมหรือสิ่งแวดล้อมโดยการแสวงหารายได้ สร้างผลกำไร เพื่อให้ธุรกิจสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตนเอง เช่น ร้านอาหารแดรี่โฮม ของบริษัท แดรี่โฮม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด บริษัท แดรี่โฮมฯ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2004 มีกิจการหลักคือฟาร์มโคนมออร์แกนิก ด้วยระบบการเลี้ยงโคนมที่เน้นความสมดุลระหว่างธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ พืช และสัตว์ เช่น ต้องไม่เลี้ยงสัตว์เยอะเกินไป ไม่ให้มีสิ่งปฏิกูลเยอะเกินไป แม่วัวถูกเลี้ยงดูแบบธรรมชาติ ได้เดินเล็มหญ้าในทุ่ง ซึ่งวัวจะเลือกกินหญ้าที่ดี ไม่มีสารเคมีเจือปน ถ้าวัวมีความสุขจะหลั่งสารแห่งความสุขออกมา นมก็จะอร่อย
ร้านอาหารแดรี่โฮม เสนอจุดเด่นของร้านที่คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ สด สะอาด ปราศจากสารพิษ ปลอดภัยจากสารเคมี ใช้เนื้อโคพันธุ์ดีที่เลี้ยงในทุ่งหญ้าธรรมชาติ ใช้เนื้อหมูปลอดสารเร่งเนื้อแดงที่เลี้ยงอย่างถูกสุขอนามัย ผักนานาชนิดถูกตัดสดส่งตรงจากแปลงปลูกธรรมชาติ เลือกข้าวหอมมะลิ จากทุ่งนาจังหวัดสุรินทร์ ที่ได้รับการรับรองการผลิตตามมาตรฐานออร์แกนิก เพื่อให้ได้ข้าวสวยที่หอม นุ่ม และปลอดภัย และพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการปรุงอาหาร หลีกเลี่ยงผงชูรส และสารปรุงแต่งอาหาร เพื่อให้ได้อาหารรสชาติอร่อยและเป็นประโยชน์ เช่นเดียวกับนมโคสดแท้แดรี่โฮม ที่ได้จากฟาร์มโคนมออร์แกนิก ถ้วยโยเกิร์ตก็ทำจากพลาสติกชีวะภาพที่มาจากพืช สามารถปลูกทดแทนใหม่ได้ ย่อยสลายได้ง่าย
ในส่วนของการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แดรี่โฮมมีกลุ่มเกษตรกรเครือข่ายที่พัฒนาเป็นฟาร์มโคนมออร์แกนิกที่ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ยาปฏิชีวนะ สารเคมีฆ่าแมลง และโกรทฮอร์โมน ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากสารเคมี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยลดค่าอาหารและยาของสัตว์ลงไปได้อย่างมาก พื้นที่ในการทำฟาร์มก็ต้องไม่ไปบุกรุกป่าต้นน้ำหรือทำลายระบบนิเวศดั้งเดิม และต้องรักษาความหลากหลายทางชีวภาพทั้งพืชและสัตว์ภายในฟาร์มอีกด้วย เกษตรกรได้เรียนรู้วิธีการพึ่งพาตนเอง และสามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างมีความสุข นอกจากนั้น ยังสร้างความตระหนักรู้ในการบริโภคสินค้าออร์แกนิคแก่ประชาชนทั่วไป และสร้างการตื่นตัวเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมแก่ชุมชน สำหรับโรงงานแดรี่โฮมมีนโยบายไม่ปล่อยมลพิษออกสู่สิ่งแวดล้อม (Zero Discharge) น้ำเสียทุกหยดถูกบำบัดและนำ กลับมาใช้หมุนเวียนเพื่อปลูกพืชภายในโรงงาน มีการคัดแยกขยะเพื่อคัดสิ่งที่ใช้ซ้ำได้ ส่วนที่เหลือก็ส่งโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากขยะ ความร้อนที่เหลือจากกระบวนการทำความเย็นก็นำกลับมาใช้ใหม่เพื่อเป็นพลังงานในกระบวนการแปรรูปน้ำนม
การดำเนินงานของแดรี่โฮม สอดรับกับ UN SDGs 7 ข้อได้แก่ No Poverty, Zero hunger, Good health & well-being, Clean Water and Sanitation, Reduced Inequality, Responsible Consumption and Production, Climate Action และ Life on Land จากสถานการณ์โควิด-19 แดรี่โฮมได้ปรับตัวทำธุรกิจออนไลน์เพื่อขยายตลาดเพิ่มมากขึ้น
การดำเนินธุรกิจ ESG ให้อยู่รอดและยั่งยืน เป็นโจทย์ที่ท้าทาย