เหตุการณ์ความประทับใจ ระหว่างตำรวจกับประชาชนในพื้นที่ ต.ท่ามะนาว อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าหลวง อ.ท่าหลวง ลพบุรี นำโดย ร.ต.ต.วรวิทย์ จันทร์สุวรรณ รอง สว.(ป) ด.ต.ประเวศ ไชยศึก ผบ.หมู่(ป) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางไปพบกับนางเรียม รัดขันแสง อายุ 72 ปี ที่บ้านเลขที่ 75/1 หมู่ที่ 2 ต.ท่ามะนาว หลังจากที่ได้ติดตามหาเพื่อนำกระเป๋าสตางค์ที่ทำตกหล่นไว้ที่ตลาดนัดบ้านบ่อคู่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 มี.ค. 2565
เมื่อคุณป้าเรียมเมื่อเห็นตำรวจเดินเข้าไปในบ้านตนเองหลายนาย พร้อมถามชื่อตนเองได้เดินออกมาต้อนรับไหว้แบบน้อมน้อม ทำใจดีสู้เสือซึ่งไม่รู้ว่าจะตำรวจจะมาขอพบตนด้วยเหตุใด พร้อมบอกชื่อ สกุลไปด้วยท่าทีตื่นเต้น จนหมวดวรวิทย์ ถามว่า ป้าได้ไปตลาดนัดบ้านบ่อคู่ไหม ซึ่งป้าตอบว่าไป แต่โชคไม่ดีทำกระเป๋าเงินหล่นหายหมด หมวดวรวิทย์ถามว่ากระเป๋าป่าสีอะไร ป้าตอบสีแดง แต่ตำรวจบอกใช่แน่หรือ ป้าผิดแล้ว ป้าขอแก้ตัวว่าเป็นสีชมพู ตำรวจจึงได้ล้วงกระเป๋าออกมาให้ดู เมื่อป้าเห็นกระเป๋าก็แสดงท่าทีออกอาการดีใจ ตำรวจถามว่ามีเงินในกระเป๋าเท่าไร ป้าเรียมบอก 6 พันกว่า
หลังจากนั้นตำรวจได้ยื่นกระเป๋าให้ ป้าได้นั่งนับเงินด้วยอาการดีใจ ซึ่งป้าได้นับเพียงธนบัตร แบงค์พัน 6 พัน นอกนั้นไม่นับแล้ว ได้โผเข้าสวมกอดหมวดวรวิทย์ พร้อมแสดงอาการดีใจอย่างอย่างที่สุด หลังจากได้เงินคืนจนครบ ซึ่งไม่คิดว่าเป็นไปได้ ตนเองนอนไม่หลับมาทั้งคืนเสียดาย เสียใจที่ตนเองสะเพร่า ทำกระเป๋าสตางค์หายในตลาดนัดที่มีผู้คนพลุกพล่าน
ร.ต.ต.วรวิทย์ จันทร์สุวรรณ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 มี.ค. ตนเองได้เข้าตรวจพื้นที่ดูแลความสงบเรียบร้อยภายในตลาดนัดบ้านบ่อคู่ อ.ท่าหลวง สักครู่ได้มีเด็กหนุ่มอายุประมาณ 20 ปีเศษได้นำกระเป๋าสตางค์มายื่นให้ พร้อมกล่าวว่าผมเก็บได้ และอยากจะคืนเจ้าของ ที่คิดว่าจะต้องเสียดายกับเงินจำนวนนี้ ซึ่งทางผู้หมวดวรวิทย์ ได้ถ่ายภาพหนุ่มพลเมืองดีไว้ แต่ไม่ได้ถามชื่อ สกุล และที่อยู่ ทราบเพียงว่าอยู่ในย่านนี้ ซึ่งในวันที่ 22 มี.ค. ได้ชักชวน ด.ต.ประเวศ ไชยศึก พร้อมพวก ขับรถตระเวนหาบ้านป้าเรียม ซึ่งห่างจาก สภ.หลายสิบกิโลเมตร แต่ที่บ้านไม่มีใครอยู่จึงได้เดินทางกลับ จนเมื่อเที่ยงวันวันที่ 23 มี.ค. จึงได้เดินทางมาพบกับป้าเรียมเพื่อคืนกระเป๋าสตางค์อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ซึ่งเหตุการณ์นี้มีผู้ที่ชื่นชมความดีของหนุ่มผู้เก็บกระเป๋าสตางค์ได้โดยไม่คิดเอาเป็นของตน และตำรวจ สภ.ท่าหลวง ที่ไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามเสาะหาบ้านจนพบกับเจ้าของตัวจริง ท่ามกลางความเสียงชมเชย คำขอบคุณในโซเชียล และจากประชาชนเป็นจำนวนมาก
ทีมข่าวลพบุรี