ประเทศมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนจะเป็นเจ้าภาพจัดให้มีการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 27 ปี 2558 (27th ASEAN Summit and Related Summit 2015) ระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2558 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งการประชุมในครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากปีนี้ เป็นปีที่ประเทศในอาเซียนจะรวมกันเป็นประชาคมอาเซียน ที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 โดยในการประชุมฯ จะมีการประกาศการจัดตั้งประชาคมอย่างเป็นทางการ รวมถึง การเตรียมเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนฉบับใหม่ (2559-2568) ซึ่งกำหนดทิศทางที่สำคัญของอาเซียนในอีก 10 ปีข้างหน้า
ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ จะมีผู้นำจากประเทศนอกภูมิภาคที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าร่วมประชุมด้วย อาทิ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายกรัฐมนตรีจีน นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายกรัฐมนตรีอินเดีย ตลอดจน เลขาธิการสหประชาชาติ โดยจะย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับภายนอกภูมิภาค ทิศทางในอนาคตของอาเซียน พร้อมยกระดับความสัมพันธ์ประเทศคู่เจรจา 2 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกาและนิวซีแลนด์ ให้เป็นประเทศหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Partner) ของอาเซียนด้วย
พล.อ.ประยุทธฺ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเดินทางไปร่วมประชุม ได้ให้ความสำคัญการจัดตั้งประชาคมอาเซียน ภายใต้แนวคิด “Our People, our Community, Our Vision” และยืนยันความพร้อมของไทยในการเป็นประชาคมอาเซียน โดยประเทศไทยจะปฏิบัติตามแผนงานประชาคมอาเซียน ทั้งสามเสา เพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์อาเซียน ค.ศ. 2025 และความสำคัญกับความร่วมมือกับภายนอกภูมิภาคมากขึ้น เพื่อร่วมรับมือกับความท้าทายต่างๆ และจะเสนอให้ใช้โอกาสการรวมตัวกันของอาเซียน สร้างบทบาทที่เข้มแข็งและอำนาจต่อรองในเวทีระหว่างประเทศมากขึ้น
โอกาสนี้ ผู้นำอาเซียนจะร่วมลงนามในเอกสารสำคัญ 3 ฉบับ ได้แก่ 1) ปฏิญญากรุงกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยการจัดตั้งประชาคม อาเซียน ค.ศ. 2015 2) ปฏิญญากรุงกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยอาเซียน ค.ศ. 2025: มุ่งหน้าไปด้วยกัน 3) อนุสัญญาอาเซียนว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็ก
พลตรี วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีจะได้เตรียมที่นำเสนอต่อที่ประชุม โดยให้ความสำคัญของภาคเกษตร ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของอาเซียน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรไทยเกษตรกรอาเซียน เพื่อให้ประชาชนของเอเปคและอาเซียนสามารถเดินหน้าไปด้วยกันอย่างเป็นเอกภาพ เป็นประชาคมเศรษฐกิจที่ทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามเจตนารมณ์การบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรีด้วย
อนึ่ง หลังจากที่เกิดเหตุโจมตีหลายจุดขึ้นในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 129 คน และบาดเจ็บอีก 352 คน รัฐบาลมาเลเซียได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนหรืออาเซียนซัมมิทที่กำลังจะมีขึ้นอย่างเข้มงวด โดยได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมความพร้อมในระดับสูงสุด เพื่อรับมือกับเหตุโจมตีที่อาจเกิดขึ้น