นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมมนา “เหลียวหลัง แลหน้า กับผู้ว่าการ ธปท.” ในโอกาสครบรอบ 80 ปี ธปท.ว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงอย่างมากในเรื่องการทำนโยบายการคลังของประเทศ หากมองอย่างเป็นกลาง ภาครัฐตอนนี้อยู่ในฐานะที่น่าเป็นห่วง เพราะมีการทำงบประมาณแบบขาดดุลติดต่อกันมานานเหลือเกิน ขณะเดียวกันหนี้สาธารณะของประเทศก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ สมัยก่อนพูดการคลังยั่งยืน ถ้าถึงจุดหนึ่งต้องรีบแก้ไข
ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ทำนโยบายต่าง ๆ ต่อเนื่องมาจนทำให้ประชาชนรู้สึกว่านโยบายประชานิยมเป็นเรื่องธรรมดา มีอะไรก็ใช้จ่ายไป ส่งผลให้ฐานะการคลังซ่อนสิ่งที่เป็นปัญหาในระยะยาวไว้เยอะมาก และหากเมื่อไหร่นโยบายการคลังไม่สามารถดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ ภาระในการดูแลเศรษฐกิจก็จะตกมาอยู่ที่การทำนโยบายการเงิน จึงเห็นว่าถ้าเมื่อใด ธปท.จำเป็นต้องทำนโยบายเข้มงวด ที่คนอื่นไม่ชอบ ก็ต้องใจแข็งที่จะทำ เพราะถ้าไม่มีเราเป็นด่านสุดท้ายเศรษฐกิจก็ไม่รู้จะตกเหวไปอยู่ที่ไหน
"ผู้ว่า ธปท. คนปัจจุบัน บอกผมหลายเรื่อง ว่าปัญหาเศรษฐกิจเกิดขึ้น มีต้นเหตุจากภาคเศรษฐกิจจริง และสุดท้ายก็มาโผล่ปลายเหตุว่าการเงินไม่มีเสถียรภาพ ทำให้เราก็ต้องรับภาระอยู่คนเดียว ก็ต้องออกแรง แม้ว่าจะเสนออะไร ซึ่งส่วนมากเขาไม่ค่อยฟัง แต่ก็ต้องพยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด” นายชัยวัฒน์ กล่าว
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ ผู้ว่า ธปท. กล่าวว่า การทำนโยบายการคลังขณะนี้ เหมือนไม่มีนโยบาย เป็นการใช้เงินไปเรื่อย ๆ ไม่เคยคิดว่าจะขาดดุลเท่าไหร่ และขาดดุลงบประมาณควรมีน้ำหนักแค่ไหนถึงจะเพียงพอ ฉะนั้นประเทศชาติตอนนี้ ต้องเน้นเรื่องการมีนโยบายการคลังที่จริงจัง ขณะที่การทำนโยบายการเงิน ต้องเน้น กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อต่อไป แต่ต้องสนับสนุนเศรษฐกิจการให้เติบโตพอสมควร เพื่อให้รัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้