นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยแกนนำพรรค อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ , นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ , นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรตประชาธิปัตย์ , นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย , และนายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำ กปปส. พร้อมทั้ง อดีต ส.ส. และสมาชิกพรรค ร่วมพิธีทำบุญ 3 ศาสนา และบวงสรวงสักการะองค์พระแม่ธรณี สัญลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องในวันครบรอบ 71 การก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์
โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีการปรับเปลี่ยนตัวเองตลอดเวลา เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนและตอบโจทย์ของประเทศ โดยตั้งใจที่จะแก้ปัญหาเรื่องต่างๆ ให้กับประชาชน และอยากเห็นบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ที่ไม่เกิดความล้มเหลวอีก ซึ่งตนมั้นใจว่าพรรคจะเป็นทางเลือกของประชาชน เพราะไม่เหมือนพรรคการเมืองอื่น โดยยึดความซื่อสัตย์สุจริต และจะผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้หลุดพ้นจากปัญหาเดิมๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำของสังคมกับคนทุกกลุ่ม ไม่เฉพาะภาคธุรกิจ แต่รวมถึงภาคประชาชน เกษตกร และผู้ใช้แรงงาน ให้มีหลักประกันในชีวิต
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้ง หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้ยังมีข้อจำกัดเรื่องกฎหมาย คือคำสั่งของ คสช. ที่ไม่ให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม ซึ่งต้องรอดูว่า คสช. จะปลดล๊อกอย่างไร แต่อาจเป็นไปได้ว่า จะค่อยๆ ผ่อนคลายตามลำดับ โดยพรรคจะเตรียมบุคลากรใหม่ๆ และจัดทำนโยบายเตรียมความพร้อมอย่างไม่เป็นทางการ ยืนยันว่าพรรคมีความพร้อมในแง่ของการทำงานอยู่ตลอด
ส่วนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์จะยังเป็นหัวหน้าพรรคอยู่หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ บอกว่า ขึ้นอยู่กับการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่จะต้องเกิดขึ้น เพื่อให้สอดคล้องตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายพรรคการเมืองกำหนด ส่วนที่ กกต. เริ่มมีการแบ่งเขตการเลือกตั้งแล้วนั้น ก็เป็นเรื่องการทำงานของ กกต. ซึ่งหากเลือกตั้งในปีหน้า ก็ต้องยึดตามจำนวนประชากรในสิ้นปี 2560 อีก ก็จะทำให้เห็นจำนวน ส.ส. แต่ละจังหวัดในขณะนั้น
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเลื่อนการบังคับใช้คำสั่งเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ทั้งการห้ามนั่งท้ายกระบะรถ และแคปรถกระบะ ตามมาตรา 44 ที่ทำให้ประชาชนสับสนว่า กฎหมายไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง ประชาชนไม่มีเวลาเตรียมตัว จึงเป็นเหตุผลให้รัฐบาลต้องยอมเลื่อนการใช้กฎหมายนี้ออกไป ส่วนการบังคับใช้กฏหมายหลังเทศกาลสงกรานต์ ก็ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจหาทางออกให้ประชาชนก่อน เพราะต้องเข้าใจว่ารถกระบะเป็นรถที่คนส่วนใหญ่ใช้และมีความคุ้นเคย หากอ้างมาตรฐานสากล ก็ไม่ตรงกับความเป็นจริง แม้จะเป็นเรื่องความปลอดภัย ซึ่งก็เห็นใจรัฐบาลที่มีความตั้งใจจริง