นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดงาน Kick off การพัฒนาความมั่นคงคุณภาพชีวิตและที่ดินที่อยู่อาศัย ในเขตพื้นที่ป่า ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ และคณะผู้บริหารฯ โดยมี นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ให้การต้อนรับ และมี นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ รายงานแนวทางการแก้ไขและพัฒนาการจัดสรรที่ดินทำกินชุมชน พร้อมกันนี้ รมว.ทส. ยังได้มอบกล้าไม้ให้กับตัวแทนชุมชนเพื่อนำไปปลูกในพื้นที่ป่าดงเซกา แปลงที่ 1 และแปลงที่ 2 ตลอดจนเยี่ยมชมและมอบบ้านที่ซ่อมสร้างเสร็จในพื้นที่บ้านพรเจริญ ม.7 ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม ให้ประชาชนในพื้นที่ อีกด้วย
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. กล่าวว่า รัฐบาล โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและการทำกินของราษฎรในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการอยู่อาศัยและทำกินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย นำไปสู่ความมั่นคงในการดำรงชีวิตและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ตลอดจนมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืนในรูปแบบป่าชุมชนที่สอดคล้องกับภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของชุมชน เพื่อเป็นฐานในการพัฒนาชุมชนได้กินดีอยู่ดีต่อไป
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย กรมป่าไม้ จึงได้ดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล หรือ คทช. ในพื้นที่ จ.นครพนม รวมจำนวน 7 พื้นที่ 106,841 ไร่ โดย จ.นครพนม ได้ดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนแล้ว 4 พื้นที่ 55,185 ไร่ อยู่ระหว่างการอนุญาต 2 พื้นที่ 51,606 ไร่ และอยู่ระหว่างการพิจารณาของ คทช.จังหวัด 1 พื้นที่ 50 ไร่ นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ที่เหลืออีก 64,562 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อทำการขออนุญาตใช้พื้นที่ให้ราษฎรสามารถอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติได้อย่างถูกต้องต่อไป
โดยในส่วนของ ต.วังตามัว นั้น มีพื้นที่ คทช. ที่ได้รับการอนุญาตให้ดำเนินการแล้ว 3,100 ไร่ อยู่ระหว่างการเสนอเพิ่มเป็นพื้นที่เป้าหมาย 1,460 ไร่ และอยู่ระหว่างการประสานงานกับองค์การบริหารส่วนตำบลวังตามัว เพื่อขออนุญาตใช้พื้นที่อีก 3,602 ไร่
นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างมีส่วนร่วมในรูปแบบป่าชุมชน จ.นครพนม โดยมีป่าชุมชนตาม พ.ร.บ.ป่าชุมชน พ.ศ.2562 จำนวนทั้งสิ้น 320 แห่ง รวมเนื้อที่ 41,791 ไร่ มีสมาชิกเครือข่ายป่าชุมชน จำนวน 317 หมู่บ้าน 48 ตำบล 10 อำเภอ รวมสมาชิก จำนวนทั้งสิ้น 5,322 คน โดยอยู่ในท้องที่ ต.วังตามัว อ.เมืองนครพนม รวม 5 ป่าชุมชน เนื้อที่ 679 ไร่
รมว.ทส. ได้กล่าว แสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชนที่มีที่ดินอาศัยทำกิน ตลอดจนการส่งเสริมการพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในชุมชน ด้วยการบูรณาการความร่วมมือกันในทุกภาคส่วน ทั้งจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นต้น โดย กระทรวงฯ พร้อมช่วยแก้ปัญหาและเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน นอกจากนี้ ยังได้ขอให้พี่น้องประชาชนร่วมกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้ยังคงอยู่ถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน อีกทั้งเชิญชวนให้ดูแลรักษาป่าชุมชน ซึ่งจะเป็นแหล่งสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับชุมชน ด้วยกลไกตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิต โดย รมว.ทส.ได้มอบหมายให้ ทสจ.นครพนม เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็ว