ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สังคม / บุคคล ย้อนกลับ
ชาวประมงพื้น 40 ครัวเรือน 2 ตำบลอำเภอเหนือคลองบุกโรงพักคลองขนานให้ติดตามเจ้าของเรือคราดหอยชดใช้ค่าเสียหายทำลายเครื่องมือประมง
19 เม.ย. 2565

ชาวประมงพื้น 40 ครัวเรือน 2 ตำบลอำเภอเหนือคลองบุกโรงพักคลองขนานให้ติดตามเจ้าของเรือคราดหอยชดใช้ค่าเสียหายทำลายเครื่องมือประมงทั้งกำชับประมงจังหวัดปราบปรามอย่างเด็ดขาดในฤดูปลาว่างไข่เลี้ยงลูก

 เมื่อวันที่ 18 เมษายน 25665 เวลา 10.00 นาฬิกา นายอาหลี ชาญน้ำ นายกสมาคมคนรักเลจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยนายสำราญ ละเด่น กำนันตำบลตลิ่งชัน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ นำชาวประมงพื้นบ้านในท้องที่ 7 หมู่บ้าน ของตำบลเกาะศรีบอยา และ 6 หมู่บ้าน ของตำบลตลิ่งชัน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ จำนวน 40 ครัวเรือน ซึ่งได้รับผลกระทบเครื่องมือทำการประมงชายฝั่งประเภทไซปลา ไซหมึก และอวนปู ได้รับความเสียหายครอบครัวละไม่ต่ำกว่า 40,000 บาท จากเรือประมงพาณิชย์ประเภทเรือคราดหอยลาย ที่ลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขตหวงห้าม 3,000 กิโลเมตรห่างจากชายฝั่ง ในพื้นที่ตำบลเกาะศรีบอยาและตำบลตลิ่งชัน จนทำให้เครื่องมือดังกล่าวถูกทำลายจนไม่มีเครื่องมือในการทำประมงอีกต่อไป 

ซึ่งทางสมาคมคนรักเลจังหวัดกระบี่ ได้โทรแจ้งไปที่สำนักงานประมงจังหวัดกระบี่ แต่ได้รับคำตอบว่าประเรือคราดหอยลายทำถูกต้องตามกฎหมาย ไม่สามารถจับกุมดำเนินคดีได้  โดยปัญหานี้เกิดขึ้นหลังจากที่กรมประมงประกาศปิดอ่าวฤดูปลามีไข่วางไข่เลี้ยงตัวในวัยอ่อนฝั่งทะเลอันดามัน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่30 มิถุนายน 2564 ได้มีเรือคราดหอยลาย เข้ามาลักลอบทำการประมงในเขตห่วงห้าม เพียง 3 ลำ แต่มาในปีนี้ช่วงเดียวกัน มีเรือดังกล่าวเพิ่มขึ้นรวมเป็น 10 ลำ ยิ่งทวีความรุ่นแรงสร้างความเสียหายให้ชาวประมงพื้นบ้านนับไม่ถ้วน รวมไปถึงในพื้นที่ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่อีก  5 หมู่บ้าน 

จึงจำเป็นต้องบุกสถานีตำรวจภูธรตำบลคลองขนาน อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ เพื่อเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับ พันตำรวจโท สมากร สูงปานขาว สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจภูธรตำบลคลองขนาน เพื่อให้ติดตามเจ้าของเรือประมงคราดหอยลายมาชดใช้ค่าเสียหายให้กับชาวประมงพื้นที่ และให้ประสานกับทางสำนักงานประมงจังหวัดกระบี่ เข้าดำเนินการปราบปรามจับกุมเรือดังกล่าวที่ลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขตหวงห้ามอย่างเด็ดขาด

ด้านนายสุรพล แซ่ตั้น ชาวประมงพื้นบ้านเกาะจำ เปิดเผยว่าเรือหอยลายทำการลากในอ่าวในฤดูการปิดอ่าวปลามีไข่วางไข่เลี้ยงตัวอ่อน ซึ่งเรือดังกล่าวได้มาทำลายทรัพยากรและเครื่องมือทำการประมงชายฝั่ง เช่นไซปลา ไซหมึก และอวนปู ที่ชาวประมงพื้นบ้านได้เพราะพันธุ์ เอาไว้ในอ่าวอีกด้วย อยากทราบว่าทำไมเขาเปิดให้ทำการประมงได้ในช่วงดังกล่าว เรือที่เข้ามาไม่ใช้เรือในพื้นที่เป็นเรือมาจากฝั่งอ่าวไทยหรือฝั่งตะวันออก ทำการลากหอยลายทางทิศเหนือของเกาะหมากในพื้นที่ตำบลเกาะศรีบอยา ตำบลตลิ่งชัน อำเภอเหนือคลอง และตำบลศาลาด่าน อำเภอเหาะลันตา จังหวัดกระบี่ เมื่อชาวประมงไปวางไซไว้จุดใดเรือลากหอยก็จะเข้าไปลากในจุดนั้นทำให้เครื่องมือได้รับความเสียหายสร้างความเดือดร้อนให้กับพวงตนเป็นอย่างมาก

สาเหตุที่เข้ามาแจ้งความเพราะได้รับความเดือดร้อน หอยลายที่เรือเข้ามาทำการประมงส่วนใหญ่ หอยลายจะแตกเพราะถูกตะแกรงเหล็ก ในจำนวน 100 เปอร์เซ็นต์หอยจะแตก 40 เปอร์เซ็นต์ ช่วงฤดูปิดอ่าวมีการทำลายทรัพยากรเยอะมากเพราะปู ปลาจะเข้ามาวางไข่ตามไซที่ชาวประมงพื้นบ้านนำไปวางเอาไว้ ประมาณ 10 กว่าวันไข่จะแตกตัว อยากจะถามว่าตัววันอ่อนจะลงไปอยู่ที่ผิวน้ำหรืออยู่ที่หน้าดิน ส่วนที่มองไม่เห็นหอยทุกชนิด กุ้งที่ต้องผักตัวอ่อน ชาวประมงพื้นบ้านไม่ใช้วางเฉพาะไวอย่างเดียว ยังมีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอีกด้วย แต่เรือคราดหอยลายมันเข้ามาทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ที่มาแจ้งความเพื่อต้องการเรียกค่าเสียหาย และอยากเรียกร้องให้ทางจังหวัดกระบี่ ไม่ให้มีเรือคราดหอยลายเข้ามาทำการประมงในพื้นที่ดังกล่าว

ทางนายอาหลี ชาญน้ำ นายกสมาคมคนรักเลจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ชาวประมงที่มาในวันนี้ได้รับผลกระทบจากเรือคราดหอยลาย ซึ่งไปทำลายเครื่องมือของพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งจังหวัดกระบี่เราใช้คำว่ากระบี่โกลกรีน เรือดังกล่าวทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำมากกว่าเรืออวนลากด้วยซ้ำไป ฉะนั้นในวันนี้เรามาเรียกร้องเครื่องมือที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งพี่น้องชาวประมงดังกล่าวต้องการที่จะขยายเขตพื้นที่ทำการประมงเป็น 12 ไมล์ทะเลทั่วทั้งจังหวัดกระบี่ ห้ามเครื่องมือที่ทำลายล้างเข้ามาในเขตหวงห้าม พี่น้องที่มาวันนี้มาเพียง 2 ตำบลของอำเภอเหนือคลอง ซึ่งพี่น้องชาวอำเภอเกาะลันตาก็จะมาร่วมตัวด้วย แต่นั้นอยู่ในเขตของอำเภอเกาะลันตา หลังจากเดินรอมอดอรเราจะขึ้นไปพบผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ไปนั่งคุยเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งเพื่อให้เกิดความชัดเจน นำไปสู่เรื่องการขยายแนวเขตและการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน

เรือคราดหอยลายมันจะลีกลอบเข้ามาทำการประมงในเขตหวงห้ามบ้าง แต่หลักแล้วมันทำนอกเขต ประเด็นมันอยู่ที่ว่ามันทำลายเครื่องมือประมงของพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน มันทำลายทรัพยากรขุดคุ้นหน้าดิน ซึ่งทำให้ทรัพยากรเสียหาย น้ำขุ่นทำการประมงประเภทอื่นๆก็ไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือคราดหอยจะทำการประมงตามแนวที่เป็นสันดอนทรายซึ่งมีหญ้าทะเลซึ่งเป็นอาหารของพะยูน รวมถึงแนวปะการังอีกด้วย นี้คือปัญหาของพวกเรา วันนี้คือมาแจ้งความต่อหนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตำบลคลองขนาด เพื่อเป็นหลักฐานว่าเครื่องมือทำการประมงพื้นบ้านได้รับความเสียหาย ยังมีชาวประมงอีกจำนวนเยอะที่ยังไม่ได้ขึ้นมาแจ้งความ และขอขอบคุณสารวัตจรใหญ่สถานีตำรวจภูธรแห่งนี้ที่ให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกในกับชาวบ้าน ทั้งๆที่บางทีเขายังไม่รู้เรื่องของทะเลมากนัก แต่เมื่อได้มาพูดคุยและทำความเข้าใจกันก็ให้รับการแจ้งความ

ทีมข่าวกระบี่

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...