ชาวบ้านกว่า 100 คนใน 280 ครัวเรือน รวมกันปิดถนนทางเข้าหมู่บ้านเพื่อคัดค้านการรื้อรั้วลวดหนามของชุมชน เอื้อประโยชน์กลุ่มนายทุ่นสร้างบ้านจัดสรร โดยใช้เส้นทางในหมู่บ้านเข้าออก ชาวบ้านหวั่นโจรขโมย เต็มหมู่บ้าน
ลพบุรี ชาวชุมชนหมู่บ้านสวัสดิการ กองพลรบพิเศษที่ 1 จังหวัดลพบุรี กว่า 100 คน ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้านกว่า 280 ครัวเรือนได้รวมตัวประท้วงปิดถนนทางเข้าหมู่บ้าน เนื่องจากเจ้าหน้าเทศบาลตำบลโคกตูม จะเข้ามารื้อรั้วของชุมชน อ้างก่อสร้างปิดทางสาธารณะ ซึ่งข้อพิพาทดังกล่าว เนื่องจากภาคเอกชนที่มาซื้อที่ดินติดด้านหลังหมู่บ้าน จะมาทำการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรเชื่อมต่อของหมู่บ้านชุมชนเดิม เพื่อเชื่อมต่อสิ่งสาธารณูปโภค ทั้งการใช้ถนน เป็นทางเดินท่อระบายน้ำ และต่อเชื่อมไฟฟ้าประปาที่ชุมชนได้ดำเนินการขอมาตั้งแต่ต้นปี 2540 โดยชุมชนได้เป็นผู้เสียเงินเป็นค่าใช้จ่ายกันเอง ทั้งการขอขยายเขตทั้งไฟฟ้า ประปา ตลอดจนท่อระบายน้ำ ซึ่งปัจจุบันชุมชนมีบ้านเรือนอาศัย อยู่กว่า 280 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยและข้าราชการบำนาญ และที่สำคัญหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านปิดทางเข้าออกทางเดียวมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในการเข้าออกหมู่บ้านเพื่อความปลอดภัยของชุมชนทั้งชีวิตและทรัพย์สินของชุมชน
ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองช่างสำนักงานเทศบาลตำบลโคกตูม อำเภอเมืองลพบุรี จะเข้ามาทำการรื้อรั้วของชุมชน ที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2542 ซึ่งชำรุดไม่สามารถใช้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของชุมชนได้ จึงได้สร้างและซ่อมแซมขึ้นมาใหม่เป็นรั้วลวดหนามความยาว 278 เมตร โดยใช้งบประมาณจากกองทุนประชารัฐหมู่บ้านละ 250,000 บาท หมู่ที่ 8 ตำบลนิคมสร้างตนเอง โดยแยกแบ่งเป็น 3 ชุมชน คือชุมชนหมู่บ้าน สวัสดิการกองพลรบพิเศษที่ 1 ชุมชนหมู่บ้านสวัสดิการมณฑลทหารบกที่ 13 และชุมชนหมู่ 8 สามัคคี ในวงเงินงบประมาณ 250,000 บาท
ด้านพันเอก บรรจง ประคองทรัพย์ หนึ่งในคณะกรรมการชุมชนบ้าน พล รพศ.1 กล่าวถึงความเป็นไปเป็นมาของหมู่บ้าน เป็นโครงการจัดสรรบ้านพร้อมที่ดิน เพื่อสวัสดิการข้าราชการกองพลรบพิเศษที่ 1 ตามนโยบายของกองทัพบก เพื่อให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยได้มีบ้านพักอาศัยเมื่อเกษียณอายุราชการแล้ว มีป้ายชื่อหน้าชุมชนว่า หมู่บ้านสวัสดิการกองพลรบพิเศษที่ 1 โดยเริ่มทำการก่อสร้างเมื่อปี 2540 ในพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี โดยมีพลตรี ชวนิตย์ กาญจนเตชะ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลรบพิเศษที่ 1 เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ ซึ่งได้ดำเนินการเริ่มตั้งแต่การพัฒนาพื้นที่ ด้วยการถมดิน การก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กเข้าโครงการเป็นถนนสายหลักและสายรอง ซอยต่างๆ วางท่อระบายน้ำ ติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบน้ำประปาน้ำบาดาล สร้างบ้านพักอาศัย ให้กับผู้เช่าซื้อ ตลอดทั้งได้สร้างกำแพงและรั้วลวดหนามรอบพื้นที่โครงการ เมื่อผู้เช่าซื้อเห็นว่าระบบสาธารณูปโภคประเภทถนนสายหลัก สายรอง ท่อระบายน้ำ ไฟฟ้าประปา และมีรั้วรอบขอบชิดมีทางเข้าออกด้านหน้าโครงการทางเดียว ไม่มีทางออกด้านอื่น และไม่เป็นพื้นที่สาธารณะที่บุคคลภายนอกชุมชน จะมาใช้หรือสัญจรผ่านได้มาก่อน ซึ่งสร้างความมั่นใจในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ผู้อยู่อาศัยได้อย่างเป็นสุข จึงได้ตัดสินใจเช่าซื้อบ้านและที่ดินในโครงการ ด้วยเข้าใจโดยสุจริตว่าระบบสาธารณูปโภคตามที่ได้กล่าวมาแล้ว เป็นสมบัติของชุมชนโดยรวม สมาชิกชุมชน ทุกครอบครัวมีสิทธิ์ที่จะใช้ประโยชน์และปกป้องสิทธิประโยชน์ดังกล่าวนั้นร่วมกัน ต่อมารั้วลวดหนามเดิมที่สร้างไว้ตั้งแต่เริ่มโครงการ เมื่อปี 2540 ด้านทิศตะวันออก ติดกับที่ดินของเอกชนได้ชำรุดลง ชาวชุมชน จึงได้ทำประชามติให้ของบประมาณจากอำเภอเมืองลพบุรี ซึ่งเป็นงบประมาณยกระดับศักยภาพหมู่บ้าน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก มาปรับปรุงซ่อมแซมเมื่อปลายปี 2559 และอำเภอเมืองลพบุรี ได้อนุมัติงบดังกล่าว ประจำปี 2560 โดยสร้างรั้วลวดหนามขึ้นทดแทนในแนวรั้วลวดหนามเดิมที่ชำรุดในพื้นที่ของชุมชน มีความยาว 278 เมตร โดยมิได้สร้าง หรือบุกรุกเข้าไปในที่เอกชนแต่อย่างใด
การที่เทศบาลตำบลโคกตูม ประกาศจะดำเนินการรื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งมีความยาวประมาณ 167 เมตร ที่กั้นพื้นที่ชุมชน กับที่ดินของเอกชนออก ซึ่งทางชุมชนทุกหลังคาเรือนทราบเรื่อง จึงได้มารวมตัวขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาในโครงการ เพื่อจะมารื้อรั้วของชุมชน พร้อมทั้งทางชุมชนเองก็มีคำสั่งจากศาลปกครองให้คุ้มครองและให้ระงับการรื้อถอนรั้วออกไปก่อนจนกว่าจะมีคำสั่งจากศาลปกครองเป็นที่สุด โดยมีนายสนธยา ไพรภูธร ปลัดอำเภอเมืองลพบุรี นายรุจ อินทร์เลิศ กำนันตำบลโคกตูม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลโคกตูม ร่วมพูดคุยได้ทำความเข้าใจ กับคู่ขัดแย้งและตกลงถอนกำลังกลับไป สร้างความพอใจให้กับชาวบ้านที่มารอฟังข่าวเป็นอย่างดี
พันเอก บรรจง ประคองทรัพย์ หนึ่งในคณะกรรมการชุมชน กล่าว่า หลังทราบข่าวว่า เทศบาลตำบลโคกตูม จะเขามาดำเนินการรื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ปรับปรุงใหม่ ทางคณะกรรมการชุมชน จึงได้ทำหนังสือยื่นต่อศาลปกครอง เพื่อให้ ศาลปกครองพิจารณา ออกหนังสือคุ้มครองชั่วคราว จนกว่าศาลจะพิจารณาให้ทำการรื้อถอนได้ จึงขอให้ระงับการรื้อถอนออกไปก่อน ซึ่งหากทำการรื้อถอนในตอนนี้ ถือว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุน และสร้างความเดือดร้อนให้คนส่วนใหญ่ในชุมชน จากการเข้ามาใช้พื้นที่ถนนเส้นทางในหมู่บ้าน เพื่อเข้าดำเนินการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งพื้นที่ด้านหลังชุมชนยังมีเส้นทางอื่นที่สามารถเข้าดำเนินการได้ โดยไม่ต้องวิ่งผ่านชุมชน จึงอยากให้ไปใช้เส้นทางอื่นแทน จะได้ไม่มีรถบรรทุกหนัก ในการวิ่งผ่านเข้าหมู่บ้าน เช่นรถบรรทุกดิน รถข้นย้ายวัสดุก่อสร้างต่างๆ รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่จะตามมาหากมีการรื้อถอนแนวรั้วรวดหนาม จะทำให้เป็นการเปิดเส้นทางด้านหลังหมู่บ้าน ปัญหาโจรขโมยก็จะตามมาด้วย
ขณะที่ นายสนธยา ไพรภูธร ปลัดอำเภอเมืองลพบุรี กล่าวว่าจากปัญหาดังกล่าวทางฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลพบุรี ได้ร่วมลงพื้นที่สังเกตการณ์ และไกล่เกลี่ย ข้อขัดแย้งระหว่างแกนนำหมู่บ้าน กับเทศบาลตำบลโคกตูม โดยระบุว่ากรณีดังกล่าว คณะกรรมการหมู่บ้านได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองจังหวัดลพบุรี ซึ่งอยู่ในขั้นตอนกระบวนการของศาล จึงขอให้ทางเทศบาลโคกตูม ยุติการรื้อถอนรั้วดังกล่าวออกไปก่อน จนกว่า จะได้ข้อยุติ ตามความเห็นของศาลปกครอง ว่าจะ คุ้มครองหรือดำเนินการอย่างไรต่อไป
ทีมข่าวลพบุรี