วันนี้ครบ ๗ วันของระยะเวลาการดำเนินการตามมาตรการ "ดื่มไม่ขับจับยึดรถ"ในเทศกาลสงกรานต์ปี ๒๕๖๐
คสช.ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ได้ร่วมกันทำงานดูแลประชาชนได้เป็นอย่างดี ทั้งด้านการอำนวยการจราจร ดูแลเรื่องความปลอดภัย รวมถึงการบริการประชาชน ซึ่งนับเป็นการทำงานที่ทุ่มเท เพื่อส่งผ่านความห่วงใยของภาครัฐไปยังประชาชนได้อย่างชัดเจน รวมทั้งขอขอบคุณประชาชน โดยเฉพาะผู้ใช้เส้นทางที่ตั้งใจปฏิบัติตามกฏจราจรด้วยตระหนักถึงความปลอดภัย จึงขอให้ได้ดำรงความต่อเนื่องในการปฏิบัติตัวดังกล่าวในทุกโอกาส
สำหรับสถิติในวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นการดำเนินการวันสุดท้าย มีดังนี้
รถจักรยานยนต์ พบการกระทำความผิด ๔๒,๗๑๐ ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถไว้ ๕๐๐ คัน และส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี ๒๙,๒๐๓ คน
สำหรับรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด ๓๒,๘๑๖ ครั้ง เจ้าหน้าที่ได้ยึดใบอนุญาตขับขี่ไว้ ๔๘๑ใบ ยึดรถยนต์ ๑๑๖ คัน ส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี ๑๘,๒๙๘ คน
โดยตลอด ๗ วัน ของเทศกาลสงกรานต์ที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามมาตรการ " ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ " ระหว่าง ๑๒ – ๑๘ เมษายน ๒๕๖๐นั้น สรุปสถิติที่เกิดขึ้นในภาพรวมดังนี้
กระทำความผิดในส่วนรถจักรยานยนต์ ๔๓๐,๘๖๗ ครั้ง รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ ๓๕๔,๑๐๐ ครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการ ดื่มไม่ขับไว้แล้ว ๘,๑๒๘ คัน (แยกเป็นจักรยานยนต์ ๖,๑๗๗ คัน และรถยนต์ ๑,๙๕๑ คัน ) และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รถจักรยานยนต์ ๒๗๙,๓๕๑ คน รถโดยสารสาธารณะ/ รถยนต์ส่วนบุคล ๑๙๘,๙๒๗ คน
สำหรับรถที่ควบคุมไว้นั้น เจ้าหน้าที่ได้ดูแลและจัดหาสถานที่เก็บรักษาไว้อย่างเหมาะสม โดยผู้เป็นเจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับคืนได้ตามเวลาที่กำหนด
การดูแลประชาชนและสร้างความปลอดภัยในการสัญจรในช่วงวันหยุดต่อเนื่องและเทศกาลสำคัญตามมาตรการ"ดื่มไม่ขับจับยึดรถ"ที่ คสช.ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี ๕๘โดยตลอด ๓ ปีที่ผ่านมา ประชาชนให้การตอบรับและสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเพราะเห็นถึงประโยชน์และผลสัมฤทธิ์ที่ได้รับในด้านความปลอดภัย ทั้งนี้คสช.จะยังคงสานต่อการดูแลประชาชนตามมาตรการดังกล่าว เพื่อสร้างความปลอดภัยสาธารณะให้เกิดขึ้นในสังคมไทยต่อไป