ตำรวจ สภ.พบพระ จังหวัดตาก สกัดจับสามคนไทยหัวใสดัดแปลงช่องลับรถขนผักกะหล่ำปลีซุกแรงงานต่างด้าวมาสองคันรถขับผ่านด่านตรวจคนขับรถมีพิรุธตำรวจจึงตรวจค้นถึงกับตะลึงพบช่องลับซุกแรงงานต่างด้าวอัดแน่นหวิดขาดอากาศหายใจเนื่องจากซ่อนตัวในที่แคบอากาศร้อนจัดคนขับสารภาพหาเงินพิเศษหลังค้าขายไม่ดี
พันตำรวจเอกโอภาส คงเมือง รอง ผบก.ภ.จว.ตาก พร้อมด้วยพันตำรวจเอกรัฐศรัณย์ เกตุสิงห์สร้อย ผกก.สภ.พบพระ จังหวัดตาก สนธิกำลังฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดตรวจค้นยานพาหนะที่จุดตรวจความมั่นคงบ้านห้วยนกแล ถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง หมู่ที่ 9 ตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เพื่อสกัดตรวจจับการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
โดยเวลาต่อมาได้มีรถยนต์กระบะจำนวนสองคันที่บรรทุกกะหล่ำปลีมาจนล้นคันรถและขับติดตามกันมาด้วยความเร็วสุงจากอำเภอพบพระมุ่งหน้าไปอำเภอแม่สอดและรถยนต์บรรทุกผักทั้งสองคันกำลังจะขับผ่านจุดตรวจบ้านห้วยนกแล เขตอำเภอพบพระ เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้รถทั้งสองคันหยุดเพื่อขอตรวจสอบ โดยการตรวจรถยนต์คันแรกเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิซิ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผค-6490 เพชรบูรณ์ ด้านหลังรถบรรทุกกะหล่ำปลีมาจนล้นคันโดยมีผ้าใบสีดำคลุมอย่างมิดชิดโดยมีนายกฤษณ ทองมาก อายุ 25 ปีและนางสาวปริญญา หงส์ทอง อายุ 26 ปีนั่งโดยสารมาด้วยโดยทั้งสองมีอาการส่อพิรุธเหงื่อแตกตัวสั่นแบบผิดสังเกตเจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวลงจากรถพร้อมเข้าตรวจภายในกระบะรถและพบช่องลับขนาดเล็กและตรวจพบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายสัญชาติเมียนมาจำนวน 7 คนนั่งเบียดเสียดกันในสภาพเหงื่อแตกจากอากาศหายใจที่มีน้อย ส่วนรถยนต์กระบะอีกคันเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ผฉ-8782 นครสวรรค์ ด้านหลังบรรทุกระหล่ำปลีมาจนเต็มคันรถและมีผ้าใบปิดคลุมอย่างมิดชิดโดยมีนายสำเริง ทองมาก อายุ 56 ปีเป็นคนขับและเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจที่ด้านท้ายกระบะรถพบช่องลับพิเศษและตรวจพบแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายสัญชาติเมียนมาจำนวน 7 คนซึ่งอยู่สภาพไม่แตกต่างกับรถคันแรก เจ้าหน้าที่จึงรีบช่วยเหลือนำตัวแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั้ง 14 คนที่กำลังหายใจยากลำบากเนื่องจากหลบซ่อนตัวอยู่ในที่แคบและอยู่กับอากาศร้อนเป็นเวลานานออกจกช่องลับของรถยนต์ทั้งสองคันพร้อมให้ความช่วยเหลือมอบน้ำดื่มและนำตัวไปในพื้นที่อากาศที่ถ่ายเทจนแรงงานทั้ง 14 คนมีสภาพอาการที่ดีขึ้น ก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวแรงงานทั้งหมดและคนขับรถพร้อมรถยนต์ของกลางนำไปสอบสวนขยายผลที่ สภ.พบพระ จังหวัดตาก
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายสำเริง คนขับรถที่ถูกตรวจจับยอมรับเป็นคนขับรถขนแรงงานต่างด้าวจริงโดยรับแรงงานต่างด้าวทั้งหมดมาจากชายแดนอำเภอแม่สอดและนำมาหลบซ่อนตัวในช่องลับรถยนต์ที่ดัดแปลงมาเป็นพิเศษและนำกะหล่ำปลีไปวางทับอำพรางหลายชั้นแล้วคลุมผ้าใบสีดำอำพรางอีกชั้นอย่างแน่นหนาเพื่อให้ยากต่อการรื้อค้นตรวจสอบของเจ้าหน้าที่และได้รับค่าจ้างในการขนเที่ยวละ 6000 บาทโดยจะส่งแรงงานชุดนี้ลงที่ตัวจังหวัดตากจากนั้นจะมีกลุ่มขบวนการมารับขนส่งต่อไปอีกทอดหนึ่งแต่มาถูกจับกุมเสียก่อน ส่วนแรงงานทั้งหมดต้องจ่ายค่านายหน้าเป็นเงินสูงถึงคนละ 30000 บาทโดยมีจุดหมายปลายทางที่หัวเมืองชั้นในรอบกรุงเทพมหานคร ขณะที่พันตำรวจเอกโอภาส คงเมือง รอง ผบก.ภ.จว.ตาก หัวหน้าชุดจับกุมกล่าวว่าการจับกุมกลุ่มขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในครั้งนี้เป็นนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ที่มุ่งเน้นให้ป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจากแนวชายแดนเข้าหัวเมืองชั้นในซึ่งผลการจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดว่าทำเป็นขบวนการใหญ่โดยกลุ่มขบวนการได้ใช้รถยนต์บรรทุกผักอำพรางซึ่งการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามโดยเฉพาะการสืบสวนหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการกลุ่มนี้มานานจนสามารถจับกุมได้ยกแก๊งซึ่งขณะนี้ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนซึ่งเป็นคนขับรถนำพาแรงงานผิดกฎหมายในครั้งนี้ไปดำเนินคดีในข้อหาช่วยเหลือซ่อนเร้นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายส่งตัวดำเนินคดีที่ สภ.พบพระ ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้ง 14 คนส่งตัวไปตรวจหาเชื้อโควิด19 ผลการตรวจไม่พบผลแรงงานติดเชื้อโควิด19 พร้อมส่งตัวไปดำเนินการตามกฎหมายพร้อมเร่งผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
ทีมข่าว จ.ตาก