พพ. เผยยอดอนุมัติโครงการโซลาร์รูฟท็อปเสรี(ระยะนำร่อง) แตะ 32.75 เมกะวัตต์ จากยอดรวมสมัครเข้าโครงการฯ 70 เมกะวัตต์ คาดปลายปี 60 นี้ มีข่าวดีเปิดโครงการล็อต 2 และอาจขายไฟฟ้าส่วนเกินเข้าระบบได้
นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) แบบเสรี ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่กระทรวงพลังงาน ต้องการให้ประชาชน ภาคครัวเรือน ภาคอาคารธุรกิจสามารถผลิตไฟฟ้าได้เองและใช้เอง โดยหลังจากประกาศเชิญชวนให้เข้าร่วมโครงการโซลาร์รูฟท็อปเสรี(ระยะนำร่อง)ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)เมื่อช่วงปี 2559ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้สนใจเข้าร่วมสมัครติดตั้งโซลาร์รูฟท็อบเสรีดังกล่าว โดยได้ยื่นแบบคำขอ Online รวมทั้งสิ้น788ราย รวมกำลังการผลิต 70 เมกะวัตต์และได้รับการพิจารณาอนุมัติโครงการ ฯ แล้ว รวมจำนวน 358 ราย รวมกำลังการผลิต 32.75 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ ตามประกาศของ กกพ. ที่ประกาศให้ประชาชนได้ร่วมโครงการการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ รูฟท็อปเสรี(ระยะนำร่อง) 100 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 50 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้านครหลวง 50 เมกะวัตต์ โดยในส่วนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีผู้ติดตั้งทั้งสิ้น 129 ราย รวม 18.85 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นบ้านอยู่อาศัย 42 ราย กำลังผลิต 0.15 เมกะวัตต์ อาคาร 87 ราย กำลังผลิต 18.7 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้านครหลวงมีผู้ติดตั้งทั้งสิ้น 229 ราย รวม 13.9 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นบ้านอยู่อาศัย 124 ราย กำลังผลิต 0.5 เมกะวัตต์ อาคาร 105 ราย กำลังผลิต 13.4 เมกะวัตต์
ปัจจุบันโครงการฯ อยู่ระหว่างการติดตามประเมินผลจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หากโครงการฯผ่านการประเมิน คาดว่า ในช่วงปลายปี 2560 นี้ จะสามารถเปิดโครงการในระยะที่สองได้เพิ่มเติม และมีโอกาสที่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะสามารถขายไฟฟ้าส่วนเกินเข้าระบบได้ ซึ่งจะจูงใจและขยายผลจากวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ที่นอกจากจะช่วยให้กลุ่มบ้าน - อาคารธุรกิจ ผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟท็อปเสรีเพื่อใช้เองแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้จากการผลิตพลังงานทดแทนได้ รวมทั้งช่วยลดการใช้ไฟฟ้าสูงสุดจากระบบหรือพีค (Peak) ช่วยให้ประเทศเกิดความมั่นคงด้านพลังงาน จากการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในระยะยาว