ทัพเรือภาค 3 นำภาคีเครือข่ายฝึกซ้อมแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวอ่าวนางสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 เวลา 14.00 นาฬิกา ที่บริเวณประตามากรรมปลาใบริมชายหาดอ่าวนาง บ้านอ่าวนาง หมูที่ 3 ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 3 กองทัพเรือ ร่วมกับกรมทหารราบที่ 2 กองพลนาวิกโยธินศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ทางทะเล หรือ สรชล และภาคีเครือข่ายจาก 8 หน่วยงาน สนธิกำลังบูรณาการ จัดฝึกซ้อมแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของทัพเรือภาคที่ 3 โดยการนำของพลเรือโท ก้องเกียรติ สัจวุฒิ รองเสนาธิการทหารเรือ กองทัพเรือ และนายกิตติพนธ์ วุฒิวงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ และนายกิตติชัย เอ่งฉ้วน รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ร่วมเป็นประธานอำนวยการฝึก
ทั้งนี้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งและเป็นการทบทวนความรู้ความสามารถทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมด้านกำลังเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ในการให้ความช่วยเหลือให้มีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมงเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มประสบการณ์ให้เกิดความชำนาญในปฏิบัติงาน ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดทั้งผู้ประสบภัยและผู้เข้าให้การช่วยเหลือ และเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ ร่วมไปถึงผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว ตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เกิดความมั่นใจว่าเมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวทางทะเลแล้ว เมื่อประสบเหตุทางเจ้าหน้าที่มีความพร้อมที่เข้าให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และเกิดความปลอดภัยสูงสุด
ซึ่งการฝึกซ้อมแผนดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นโดยสมมุติการณ์ กรมอุตินิยมวิทยาประกาศแจ้งเตือนเนื่องจากหย่อนความกดอากาศสูงจากประเทศจีน พัดปกคลุมลงมาถึงภาคใต้ของประเทศไทย ส่งผลให้มีคลื่นลมแรงในฝั่งทะเลอันดามันของให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ จากประกาศดังกล่าวทำให้เรือโดยสารประจำทางสปีดโบ๊ท 2 ลำที่บรรทุกนักท่องเที่ยวไปยังเกาะพีพี เกิดชนกันบริเวณกึ่งกลางระหว่างหน้าชายหาดอ่าวนางกับเกาะปอดะ ท้องที่ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ได้ให้เรือทั้งสองลำอับปาง ขณะเกิดเหตุมีเรืออีกลำอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุจึงเข้าไปให้การช่วยเหลือ แต่ด้วยสภาพคลื่นลมแรงทำให้เรืออับปางอีก 1 ลำ ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์มีนักท่องเที่ยว คนขับเรือ และลูกเรือ ต้องลอยคออยู่ในทะเล 20 คน
จากนั้นศูนย์นพรัตน์ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือ จึงประสานหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลัง พร้อมด้วยอุปกรณ์และเรือตรวจการลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทั้งได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ขึ้นที่บริเวณใกล้พื้นที่เกิดเหตุ เมื่อทีมเข้าถึงพื้นที่เริ่มทำการออกคนหาผู้ประสบภัยที่ลอยคออยู่ในทะเลทั้งที่จุดเกิดเหตุและบริเวณโดยรอบในระยะ 2 กิโลเมตร พร้อมทั้งใช้โดรนบินสำรวจค้นหาสมทบอีกทางหนึ่งด้วย จนสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้จำนวน 19 คน นำจำวนนี้เป็นบาดเจ็บเล็กน้อย 7 คน บาดเจ็บปานกลา 6 คน บาดเจ็บสาหัส 6 คน จากนั้นได้ทำการปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บทั้งหมด และนำผู้ป่วยบาดเจ็บปานกลางและบาดเจ็บสาหัสส่งโรงพยาบาลจังหวัดกระบี่ เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาตัวต่อไป
โดยมีผู้สูญหาย 1 คน จึงได้ออกทำการค้นหาอีกครั้ง แต่ช่วงดังกล่าวมีลมกรรโชคแรงและคลื่นลมแรงสูง 3 – 4 เมตร จึงขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 3 กองทัพเรือ เข้าทำการออกค้นหาทางอากาศจนพบ และเข้าให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลจังหวัดกระบี่ ให้แพทย์ดูแลรักษาได้อย่างปลอดภัย เป็นอันเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมแผนดังกล่าว
ทีมข่าวกระบี่