ชาวบ้านโพธิ์เลื่อน ม.2 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ กว่า 10 ครัวเรือน ได้รวมตัวกันออกมาร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.กระบี่ ว่า ถูกเพื่อนบ้านซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินข้างเคียงปิดทางผ่านเข้าออกสวนปาล์มน้ำมัน ทำให้เกิดความเดือดร้อนเพราะไม่สามารถเข้าออกเก็บพืชผลผลิตได้ตามปกติ
นายทนงศักดิ์ เมืองรักษา อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 หมู่ที่ 2 ต.เขาพนม อ เขาพนม จ.กระบี่ กล่าวว่า ตนและเพื่อนบ้าน จำนวน 17 ครัวเรือน ซึ่งเป็นราษฎร์ที่ได้รับสิทธิ์ ในเขต ส.ป.ก. 4 -01 ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีเพื่อนบ้านพื้นที่เดียวกัน ปิดเส้นทางเข้าออกสวนปาล์มน้ำมันที่พวกตนทำกินอยู่ ทำให้ไม่สามารถเข้า-ออก เพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรได้ มาเป็นเวลากว่า 5 ปี โดยก่อนหน้าที่ได้ให้ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ช่วยไกล่เกลี่ย แต่เจ้าของที่ดินข้างเคียงก็ไม่ยอมให้พวกตนผ่าน หมดทางออกเลยต้องมาพึ่ง ศูนย์ดำรงธรรม ช่วยเหลือ
นายทนงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า กว่า 30 ปี ที่พวกตนใช้เส้นทางดังกล่าวเข้าออกสวนปาล์ม แต่ เมื่อประมาณ 5 ปี ที่ผ่านมา ทางเจ้าของที่ดินที่ปิดทางเข้า-ออก ของพวกตน ได้ซื้อที่มาจากบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ที่เข้าไปบุกรุกยึดถือครองครองที่ดินของรัฐ ต่อมาทางรัฐบาลและทางจังหวัดกระบี่ ได้ให้สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดกระบี่ สำรวจพื้นที่ว่ามีแปลงใดบ้างที่มีการบุกรุกโดยผิดกฎหมาย แล้วให้เข้าตรวจสอบยึดพื้นที่กลับคืนมาเป็นของรัฐ เพื่อนำมาจัดสรรให้กับราษฎรผู้ยากไร้ในพื้นที่จังหวัดกระบี่
หลังจากที่ สปก.ได้ทำการตรวงยืดพื้นที่ดินสวนปาล์มน้ำมันของเอกชนรายนี้กลับคืนมาเป็นของรัฐ รวมเนื้อที่จำนวน 3,000 กว่าไร่ ตามมติโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามนโยบายรัฐบาล หรือ คทช. ได้มีการโค่นล้มต้นปาล์มน้ำมัน จำนวน 1,000 กว่าไร่ เพื่อเตรียมการจัดสรรให้กับราษฎรผู้ยากจนครัวเรือนละ 3 ไร่ ส่วนพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันที่ยังไม่มีการโด่นล้มอีก 2,000 กว่าไร่ ปรากฎว่าได้มีการแบ่งขายให้นายทุนในราคาไร่ละ 50,000 บาท ตนไม่ทราบว่าเป็นใคร ซึ่งเจ้าของที่ดินที่ปิดทางเข้าออกพวกตนก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น ที่ได้ซื้อที่ดินดังกล่าว
พวกตนที่ได้รับความเคือนร้อน จึงจำเป็นที่จะต้องยื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรม และขอให้มีการตรวจสอบด้วยว่า ที่ดินที่นายทุนรายดังกล่าวถือครองอยู่ได้มา ด้วยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ทีมข่าวกระบี่