นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมได้รับหนังสือคำวินิจฉัยจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคเพื่อไทย เขตตลิ่งชัน หลังสมาคมยื่นร้องเรียนไปเมื่อ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กกต. วินิจฉัยว่าผู้สมัคร ส.ก.รายดังกล่าว เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์ ตามคำพิพากษาศาลอาญาธนบุรี คดีหมายเลขดำที่ 3321/2526 คดีหมายเลขแดงที่ 2524/2527 ลงวันที่ 21 มิ.ย. 2527 คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำที่ 8007/2527 คดีหมายเลขแดงที่ 4893/2528 ลงวันที่ 27 ก.ย. 2528 และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 221/2531 ลงวันที่ 19 ก.พ. 2531 จากการตรวจสอบคำพิพากษาดังกล่าวของศาลธนบุรี ผู้สมัคร ส.ก.คนดังกล่าว กระทำความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 มาตรา 83 และมาตรา 80 และประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พ.ย. 2514 ข้อ 14 ลงโทษจำคุก 10 ปี ของกลางริบ และให้นับโทษต่อจากโทษในคดีหมายเลขดำที่ 480/2526 คดีหมายเลขแดงที่ 747/2527 ของศาลดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ แม้ผู้สมัคร ส.ก.ดังกล่าว จะอ้างว่าได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ.ล้างมลทิน พ.ศ. 2539 และ พ.ศ. 2550 แล้ว และถือว่ามิได้เคยถูกลงโทษในความผิดนั้นๆ มาก่อน แต่ พ.ร.บ.ล้างมลทิน มีความหมายเพียงว่า ผู้สมัครไม่เคยถูกลงโทษในความผิดอาญาดังกล่าวมาก่อน มิได้หมายความว่าการกระทำของผู้สมัครรายดังกล่าวที่เป็นเหตุให้ถูกลงโทษนั้นถูกลบล้างไปด้วย ตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1179/2562 และคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 415/2557
เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าผู้สมัคร ส.ก.เขตตลิ่งชัน พรรคเพื่อไทย รายดังกล่าวต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา จึงเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 50 (10)
“ด้วยเหตุดังกล่าว กกต. จึงมีมติสั่งให้ถอนชื่อของผู้สมัคร ส.ก.เขตตลิ่งชัน พรรคเพื่อไทยดังกล่าว ออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ก. ตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ข้อ 117 วรรคหนึ่ง (2) และวรรคสอง นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป”
นายศรีสุวรรณ ยังระบุด้วยว่า หลังจากนี้ กกต. ต้องดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ถูกร้องต่อไป ฐานแจ้งความต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อันเป็นเท็จ ตามมาตรา 120 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และศาลจะสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งมีกำหนด 20 ปีอีกด้วย.