นายชาญยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นายสุระชัย วิชาชัย หัวหน้ากลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า นำเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์ จ.ขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่างๆในเขต จ.ขอนแก่น เพื่อตรวจสอบปริมาณราคาจำหน่าย ป้องการกักตุนสินค้า และการไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือค้ากำไรเกินควร โดยได้รับความร่วมมือจากห้างสรรพสินค้าและร้านค่าต่างๆในการนำเจ้าหน้าที่เข้ารับการตรวจอย่างเข้มงวด
นายชาญยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าราคาน้ำปาล์ม ขนาด 1 ลิตร จำหน่ายในราคาขวดละ 68-70 บาท และมีปริมาณสินค้าที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค และไม่พบผู้ประกอบการรายใดกักตุนสินค้า ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า แม้ทางห้างฯ จะจำกัดการซื้อ คือคนละไม่เกิน 6 ขวด ในกลุ่มน้ำมันปาล์ม ขนาด 1 ลิตร เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการและเป็นการกระจายสินค้าให้กับผู้บริโภค ทั้งนี้คณะทำงานของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยังคงลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณสต็อกสินค้าและรายงานให้กับกระทรวงพาณิชย์ได้รับทราบ ตามมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด
" สาเหตุที่น้ำมันปาล์มขึ้นราคาต่อเนื่องนั้นมีผลมาจากราคาปาล์มน้ำมันมีราคาเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันกิโลกรัมละ 11-12 บาท และปัญหาเรื่องค่าขนส่งจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งประเทศอินโดนีเชีย ที่เป็นผู้ผลิตและส่งออกปาล์มน้ำมันรายใหญ่กว่าร้อยละ 60 ของโลก งดการส่งออกจึงส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มเพิ่มสูงขึ้นในระยะนี้"
นายชาญยุทธ กล่าวต่ออีกว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบของสำนักงานพาณิชย์จังหวัด จะทำการสุ่มตรวจทุกสัปดาห์ โดยระยะนี้จะเน้นหนักในกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภค ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันปาล์ม,เนื้อหมู,ข้าวสาร,เนื้อสัตว์ รวมทั้งเครื่องบริโภคต่างๆ เพื่อป้องกันการกักตุนสินค้าและฉวยโอกาสขึ้นราคา ซึ่งหากพบว่ามีการจำหน่ายในราคาที่สูงเกินควร หรือกักตุนสินค้า จะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตามหากประชาชนพบเห็นร้านค้าใดจำหน่ายสินค้าที่สูงเกินควร หรือปรับราคาสินค้าเพื่อหาผลประโยชน์จากความเดือดร้อนของประชาชน ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่สายด่วน กระทรวงพาณิชย์ 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่น 043-236094 เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบทันที