ทั้งนี้ การปลดล็อกกัญชาและกัญชงให้พ้นบัญชียาเสพติด ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 นี้ คาดว่าจะช่วยเปิดทางให้กัญชาและกัญชงของไทย สามารถออกไปช่วงชิงส่วนแบ่งในตลาดโลก ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1.039 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือราว 3.53 ล้านล้านบาท) ในปี 2567 ตามรายงาน The Global Cannabis Report ของ Prohibition Partners ขณะเดียวกัน ตลาดกัญชาทางการแพทย์ในประเทศไทย ช่วงปี 2563-2567 ก็มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 26% ต่อปี มีมูลค่าประมาณ 2,700 ล้านบาท และคาดว่าจะโตได้ถึง 40,000 ล้านบาท ภายในปี 2570
อย่างไรก็ตาม การจะสนับสนุนให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตชั้นนำของโลก และก้าวไปสู่ตลาดต่างประเทศได้จริง จำเป็นต้องมีมาตรฐานการผลิตกัญชงและกัญชาบนหลักพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ คำนึงถึงความสะอาด ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุดในการนำไปใช้ ต้องมีมาตรฐานตั้งแต่ต้นน้ำ การปลูก กลางน้ำ การสกัด ไปจนปลายน้ำ หรือการทำเป็นผลิตภัณฑ์ รวมถึงการมีหน่วยงานตรวจสอบ วัดมาตรฐาน ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมกัญชงและกัญชาในประเทศไทยได้รับการยอมรับจากตลาดโลก
“การจัดงานแสดงเทคโนโลยี นวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ กัญชง-กัญชานานาชาติแห่งเอเชีย นี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งสมาคมมีเป้าหมายที่จะให้ความรู้ และแสดงศักยภาพด้านอุตสาหกรรมกัญชงกัญชาไทย และสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างโอกาส หรือหากเป็นกลุ่มที่สนใจอยากเพาะปลูก อยากสร้างรายได้ก็จะเข้าใจกระบวนการขั้นตอนทั้งหมด หรือกลุ่มที่เป็นผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชงกัญชาอยู่แล้ว ก็จะมีโอกาสได้พบปะเจรจาธุรกิจ พบผู้ประกอบการและผู้สนใจสั่งซื้อที่มาจากต่างประเทศ สร้างเครือข่ายกับนักธุรกิจจากทั่วโลก รวมทั้งยังมีฟอรั่มเสวนาให้ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางธุรกิจ ครบจบในงานเดียวที่ไม่ควรพลาด” นายพรชัย กล่าว