ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
กสร. แนะ3ต.ป้องกันอัคคีภัยในสถานประกอบการ
08 มิ.ย. 2565

นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.)เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานให้ความสำคัญการป้องกันเหตุอัคคีภัยในสถานประกอบกิจการ โดยมุ่งหวังลดสถิติการประสบอันตรายจากการทำงานสร้างการรับรู้มาตรการเชิงป้องกันความปลอดภัยในการทำงาน เป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้แรงงานบาดเจ็บหรือเสียชีวิตน้อยที่สุด รวมถึงทรัพย์สินของสถานประกอบกิจการไม่ให้เสียหายกสร. จึงจัดให้มีแคมเปญภายใต้ชื่อว่าSAFE LIFE โดยใช้หลัก 3 ต ซึ่งเป็นหนึ่งในแคมเปญดังกล่าว เพื่อป้องกันอัคคีภัยในสถานประกอบกิจการ ประกอบด้วย “ติดตั้ง” โดยต้องติดตั้งระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย เครื่องดับเพลิงแบบเคลื่อนย้ายได้ ระบบป้องกันฟ้าผ่า และแหล่งจ่ายไฟฟ้าสำรอง “ตรวจสอบ” หมั่นตรวจสอบระบบป้องกันและระงับอัคคีภัย และเครื่องดับเพลิงแบบเคลื่อนย้ายได้ “เตรียมความพร้อม” ต้องจัดทำแผนป้องกันและระงับอัคคีภัย จัดอบรมการดับเพลิงขั้นต้นให้กับลูกจ้าง และฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟประจำปี โดยหลักดังกล่าวจะช่วยป้องกันและลดการเกิดอัคคีภัย พร้อมทั้งจะช่วยสร้างความปลอดภัยใน การทำงาน ลดการประสบอันตรายจากการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อธิบดี กสร.กล่าวต่อไปว่าการแก้ปัญหาอัคคีภัยในสถานประกอบกิจการถือเป็นเรื่องท้าทาย ที่ กสร.ต้องให้ความสำคัญและกำหนดให้มีมาตรการป้องกันอุบัติเหตุในการทำงานรวมไปถึงการรณรงค์ สร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัย และสร้างความร่วมมือในการดำเนินงาน ซึ่งกสร. ได้ขอความร่วมมือนายจ้าง เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสภาพระบบและเครื่องมือป้องกันอัคคีภัยอย่างสม่ำเสมอ พร้อมชี้แนะให้นายจ้าง ลูกจ้างปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อนำไปสู่เป้าประสงค์ของการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงานให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ กองความปลอดภัยแรงงาน 0 2448 9128 - 39 ต่อ 603 - 610

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 ธันวาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
02 ธ.ค. 2568
ต้องยอมรับว่า การปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยที่มั่นคง หัวใจสำคัญด้านหนึ่งต้อง มาจากฐานราก หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ การปกครอง ส่วนท้องถิ่นต้องเข้มแข็ง ซึ่งประเทศไทยเราเอง ก็พัฒนาขึ้นมาเป็นลำดับโดยเฉพาะเมื่อรัฐธรรมนูญ 2540 เปิดศักราชใหม่ให้กับการกระจายอำนาจลงสู่...