ทั้งนี้ เพื่อให้การบริการผู้โดยสารเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทสภ. จึงได้จัดเตรียม สิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงบุคลากรให้พร้อมรองรับและสอดคล้องกับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยในส่วนของผู้โดยสารขาออก ทสภ. ได้เปิดใช้งานเคาน์เตอร์เช็คอินเพื่อรองรับการให้บริการของสายการบินครบทุกเคาน์เตอร์ จำนวน 318 เคาน์เตอร์ พร้อมมีเครื่องเช็คอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self – Service : CUSS) จำนวน 196 เครื่อง และเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop : CUBD) จำนวน 42 เครื่อง ซึ่งสามารถรองรับการให้บริการเช็คอินของสายการบินได้อย่างเพียงพอ
ทางสายการบินสามารถเปิดเคาน์เตอร์ตรวจบัตรโดยสารและเคาน์เตอร์บริการผู้โดยสารได้ล่วงหน้าถึง 3 ชั่วโมง ก่อนเที่ยวบินออก สำหรับกรณีที่ผู้โดยสารมาเช็คอินจำนวนมากในชั่วโมงเร่งด่วน ทสภ. ยังได้จัดเจ้าหน้าที่สนับสนุนเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและจัดระเบียบการเข้าแถวเช็คอินของผู้โดยสารให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นอกจากนี้ ทสภ.ยังได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ณ จุดตรวจค้นร่างกายและสัมภาระผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่จราจรบริเวณด้านหน้าชานชาลาอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เพื่อแก้ไขการจราจรคับคั่งในช่วงเวลาที่มีรถเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในการตรวจพื้นที่และตรวจสอบเฝ้าระวังวัตถุต้องสงสัย รวมทั้งเฝ้าสังเกตการณ์ด้วยกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง
นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า ทสภ. ในฐานะท่าอากาศยานหลักของประเทศ ยังได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานราชการ สายการบิน ผู้ประกอบการ ให้มีความพร้อมในการบริการนักเดินทางจากทั่วโลก ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว โดย ทสภ. พร้อมที่จะให้การสนับสนุนการทำงานของทุกส่วนงาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ทสภ. จะทำหน้าที่เป็นประตูสู่ประเทศไทย ต้อนรับและสร้างความประทับใจแก่ผู้โดยสาร พร้อมร่วมเป็นกลไกสำคัญกับรัฐบาลในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ