นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์การผลิตสุกรในประเทศไทยร่วมกับภาครัฐพบว่า การผลิตสุกรมีปริมาณผลผลิตเพียงพอต่อการบริโภคตลอดปี 2565 แน่นอน โดยต้นทุนการเลี้ยงอาจยังอยู่ในเกณฑ์สูงจากปัจจัยหลายด้านที่เข้ามากระทบ แต่ขณะนี้ทุกสมาคมสุกรยังคงให้ความร่วมมือกันรักษาระดับราคาหน้าฟาร์มที่ 100 บาท/กก. ตามประกาศราคา ณ วันพระล่าสุด นอกจากนี้ในช่วงนี้ยังเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งมีอาหารโปรตีนทางเลือกจากธรรมชาติออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรลดลง และเป็นปัจจัยให้เกิดแนวโน้มการชะลอตัวลงของราคาสุกร
“ภาพรวมทั้งประเทศในขณะนี้ การผลิตและการบริโภคหมูมีความสมดุล แม้ภาคเหนืออาจมีผลผลิตไม่เพียงพอบ้าง แต่ภาคใต้ก็มีหมูที่เกินความต้องการอยู่ ดังนั้น ขอผู้บริโภคมั่นใจว่าผลผลิตหมูของไทยไม่ขาดแคลน และมีเพียงพอต่อการบริโภคไปตลอดทั้งปี” นายสิทธิพันธ์กล่าว
ขณะที่ข้อมูลของกรมปศุสัตว์ซึ่งทำการสำรวจจำนวนสุกรอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนมกราคม–พฤษภาคม 2565 พบว่าจำนวนสุกรแม่พันธุ์มีอยู่ประมาณ 1 ล้านตัวในระบบ ขณะที่ปริมาณความต้องการบริโภคในประเทศอยู่ที่เดือนละ 1.5 ล้านตัว และจากผลการสำรวจสุกรขุนในแต่ละเดือนมีประมาณ 9 ล้านตัวตามรอบการผลิตสุกรขุนประมาณ 6 เดือน นั่นแสดงว่าปริมาณสุกรขุนมีเพียงพอต่อความต้องการในประเทศแน่นอน
นายสิทธิพันธ์ กล่าวอีกว่าขณะที่หมูไทยมีเพียงพอต่อการบริโภคของคนไทยอยู่แล้ว ปริมาณและอัตราการบริโภคสมดุลกัน หากยังมีการลักลอบนำเข้าหมูอยู่ย่อมเกิดการแย่งตลาดและกระทบภาพรวมของประเทศ รวมถึงอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภคด้วย จึงอยากขอวอนภาครัฐอีกครั้ง โปรดกวาดล้างขบวนการลักลอบนำเข้าให้หมดไปโดยเร็ว เพื่อความปลอดภัยทั้งต่อเกษตรกรและผู้บริโภค