นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้หารือร่วมกับผู้ประกอบการเอกชน เพื่อระดมความคิดเห็นเสนอแนวทางปลดล็อกและเดินหน้าเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ โดยข้อเสนอหลักภาคเอกชนเห็นพ้องกันคือ การยกเลิกระบบไทยแลนด์ พาส มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เพื่อให้การท่องเที่ยวไทยกลับสู่ความเป็นปกติมากที่สุด
ส่วนข้อกังวลด้านการตรวจสอบประวัติการฉีดวัคซีนของนักท่องเที่ยวต่างชาติ มองว่าความจริงแล้ว สามารถตรวจสอบผ่านขั้นตอนก่อนเดินทางได้ อาทิ การแสดงวัคซีน พาสปอร์ต ต่อสายการบินในขั้นตอนการเช็กอินก่อนขึ้นเครื่องบิน ส่วนเอกสารการทำประกัน เสนอให้แสดงผ่านแพลตฟอร์มอื่นที่สะดวกกว่าแทน
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม ทั้งวีซ่านักท่องเที่ยว (Tourist Visa) ค่าธรรมเนียม 1,000 บาทต่อคน และวีซ่าหน้าด่าน (Visa on Arrival : VoA) ค่าธรรมเนียม 2,000 บาทต่อคน เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ที่ประกาศว่า ปี 2565-2566 ถือเป็นปีของการส่งเสริมท่องเที่ยวไทย เสนอขยายระยะเวลาพำนักระหว่างท่องเที่ยวในไทยเป็นสูงสุด 45 วัน ทั้งฟรีวีซ่า ผ.30 แก่ 56 ประเทศ และวีซ่าหน้าด่าน รวมถึงการชะลอจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือค่าเหยียบแผ่นดิน อัตราคนละ 300 บาท ตามที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ตัดสินใจชะลอการจัดเก็บออกไปก่อน
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า รวมถึงมีข้อเสนอให้ยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยทั้งในอาคารและที่โล่งแจ้งแก่ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ยังคงคำแนะนำให้สวมใส่ได้ ซึ่งก็ขึ้นกับการตัดสินใจส่วนบุคคลหรือสถานประกอบการนั้นๆ พร้อมทั้งเสนอให้ยกเลิกการวัดอุณหภูมิก่อนเข้าสถานที่ต่างๆ เพราะมองว่าปัจจุบัน อาจช่วยคัดกรองได้ไม่เต็มประสิทธิภาพมากนัก และเสนอขยายเวลาการเปิดให้บริการของเศรษฐกิจภาคกลางคืน อาทิ สถานบันเทิง ผับ บาร์ สามารถเปิดได้แบบเต็มเวลามากขึ้น โดยจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมด เสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)ในวันที่ 17 มิถุนายนนี้