ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
โรคลิมปิสกินระบาดหนักที่ชัยภูมิวัวตาย65ตัว
12 มิ.ย. 2565

สำนักงานปศุสัตว์ จ.ชัยภูมิ ได้ส่งทีมสัตวแพทย์ ออกพ่นยาเพื่อป้องกัน และกำจัดลัมปีสกิน ในพื้นที่ ต.โพนทอง อำเภอเมืองชัยภูมิ ตามคอกวัวของเกษตรกรทั้ง 12 หมู่บ้าน โดยออกฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคตามคอกเลี้ยงวัวชาวบ้านหมู่ 12 ต.โพนทอง อ.เมืองชัยภูมิ และร่วมกันฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากและเท้าเปื่อยให้กับโค-กระบือ ที่อายุ 4 เดือนขึ้นไปทุกตัวในพื้นที่ ต.โพนทอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เพื่อให้เกิดพลังสามัคคีนำไปสู่การป้องกันโรคระบาดในโคกระบือ เป็นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ซึ่งช่วงนี้ขอให้เกษตรกรผู้เลี้ยงวัว ควายตามคอกต่าง ๆ เกษตรกรผู้เลี้ยงวัว ควาย ต้องเร่งช่วยป้องกัน โดยฉีดยาฆ่าเชื้อโรครอบบริเวณคอก กำจัดแมลงพาหะนำโรค และกางมุ้งให้แม่วัวในคอกนอนทุกคืนในพื้นที่เสี่ยงทั้งหมดไว้ก่อนด้วย เมื่อพบวัว ควายที่เลี้ยงไว้ป่วย ต้องแยกสัตว์ที่แสดงอาการออกจากสัตว์ตัวอื่นโดยเร็วทันที เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาและกักกันโรค ควบคู่กับการกำจัดพาหะแมลงดูดเลือดด้วยการทำความสะอาดสัตว์เลี้ยงให้บ่อยครั้งมากขึ้น และใช้สารกำจัดแมลงละลายน้ำฉีดพ่นบริเวณตัวสัตว์และบริเวณคอกในฟาร์มอย่างสม่ำเสมอ โดยห้ามรับประทานโคหรือกระบือที่ป่วยด้วยโรคดังกล่าวนี้เด็ดขาด และหากพบว่าโค กระบือเสียชีวิต จะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่และรีบทำการฝังดินและปิดทับด้วยปูนซีเมนต์เท่านั้น ที่จะช่วยหยุดการแพร่ระบาดลงโดยเร็วโดยในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ มีเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวทุกประเภท ทั้งวัวเนื้อ วัวนม วัวพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ และกระบือ หรือควาย มากเป็นอันดับ 6 ของภาคอีสาน ปัจจุบันมีอยู่ในพื้นที่จำนวนมากกว่า 9 หมื่นตัว ซึ่งขณะนี้ จ.ชัยภูมิ ได้พบการระบาดโรคลัมปีสกินในพื้นที่ 10 อำเภอมีเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวได้รับผลกระทบ 239 ราย พบวัวป่วยด้วยโรคลัมปีสกินแล้ว 357 ตัว ตายแล้ว 65 ตัว จากวัวในฝูงทั้งหมดกว่า 2,192 ตัว สูงสุดในประเทศไทยในขณะนี้ โดยจะมีการออกพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และยากำจัดแมลงในฟาร์มวัว ควาย จุดที่พบโรคในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบจุดเกิดโรค ตลาดนัดค้าสัตว์เสรี ส่วนลูกสัตว์ที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป สามารถนำมาฉีดวัคซีนให้กับลูกสัตว์ที่มีอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...