“พาณิชย์” เปิดงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair (BGJF) ในรูปแบบ BGJF Virtual Trade Fair 2022 ระหว่างวันที่ 13–17 มิถุนายน 2565 อย่างยิ่งใหญ่ บนเว็บไซต์ www.bgjf-vtf.com โชว์ไฮไลต์ 3 กิจกรรมหลัก นำผู้ประกอบการไทยกว่า 300 ราย มาจัดแสดงร้านค้าออนไลน์เปิดให้ผู้ซื้อ ผู้นำเข้าเลือกชม ช้อป พร้อมจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์กับผู้ซื้อจากทั่วโลก ตั้งเป้าไม่น้อยกว่า 400 คู่ และสัมมนาทิศทางอุตสาหกรรม แนวโน้มตลาด คาดยอดปังไม่ต่ำกว่า 570 ล้านบาท ก่อนจัดงานรูปแบบออฟไลน์ 7-11 กันยายน 2565 อย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง หลังเว้นมาสองปี จากผลกระทบสถานการณ์โควิด-19
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ หรือ Bangkok Gems and Jewelry Fair (BGJF) ในรูปแบบ BGJF Virtual Trade Fair 2022 ระหว่างวันที่ 13–17 มิถุนายน 2565 ผ่านแพลตฟอร์ม www.bgjf-vtf.com ว่าการจัดงานรูปแบบออนไลน์ครั้งนี้ ถือเป็นการนำร่องก่อนการจัดงานรูปแบบออฟไลน์ในเดือนกันยายนนี้ เพื่อกระตุ้นการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการปรับรูปแบบการจัดงาน BGJF มาเป็นงานแสดงสินค้าเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อปี 2563 ซึ่งได้รับกระแสตอบรับอย่างดียิ่ง และได้จัดอย่างต่อเนื่องมาครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 3 เพื่อสร้างช่องทางและโอกาสให้กับผู้ประกอบการในการเข้าถึงผู้ซื้อผู้นำเข้าจากทั่วโลก ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้เป็นปกติ
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ คาดว่าจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยจะมี 3 กิจกรรมไฮไลต์ ได้แก่ 1.การจัดหน้าร้านค้าของผู้ประกอบการ (Virtual Store) โดยมีผู้ประกอบการชาวไทยเข้าร่วมกว่า 300 บริษัท ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อและผู้นำเข้าที่สนใจสามารถเข้าชมสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยผ่านทางออนไลน์ 2. การจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) โดยคาดว่าจะเกิดการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ไม่น้อยกว่า 400 คู่ ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสสำหรับการค้าอัญมณีและเครื่องประดับผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อตอบโจทย์การค้าแบบ New Normal 3. การสัมมนาออนไลน์ในหัวข้อเกี่ยวกับอุตสาหกรรมสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้แนวโน้มตลาด รับฟังข้อคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในวงการอัญมณีและเครื่องประดับ รวมทั้งสร้างเครือข่ายภายในแพลตฟอร์มระหว่างที่มีการเจรจาการค้าแบบเรียลไทม์
“การจัดงานในรูปแบบออนไลน์เสมือนจริงครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ซื้อ ผู้นำเข้า จากภูมิภาคต่างๆ อาทิ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ มาร่วมในการเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย ซึ่งจะเกิดมูลค่าการสั่งซื้อไม่น้อยกว่า 570 ล้านบาท” นายภูสิตกล่าว
ทั้งนี้ หลังจากการจัดงานในรูปแบบออนไลน์ครั้งนี้แล้ว กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะมีการจัดงาน Bangkok Gems and Jewelry Fair อีกครั้ง ซึ่งจะเป็นการจัดงานอย่างเต็มรูปแบบ ในวันที่ 7-11 กันยายน 2565 ที่อิมแพค เมืองทองธานี หลังเว้นจากการจัดงานเกือบ 2 ปี จากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา เพื่อร่วมกำหนดแนวคิดและวิสัยทัศน์หลักในการจัดงาน BGJF ตลอดจนสร้างภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์งาน BGJF ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยใช้เครือข่ายที่แต่ละหน่วยงานมีอยู่ในการขับเคลื่อน โดยขณะนี้ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศที่คาดว่าจะเข้าร่วมงานกว่า 700 ราย และได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อ ผู้นำเข้า และผู้ชมงานจากทั่วโลกที่จะเดินทางมาร่วมงานกว่า 10,000 ราย ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก คาดว่าจะมีมูลค่าการสั่งซื้อทันทีและภายในงานไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท
นายภูสิตกล่าวว่า สำหรับมาตรการส่งเสริมและผลักดันการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ปรับกลยุทธ์เพื่อเร่งรัดการส่งออกทั้งเชิงรุกและเชิงลึก ตามยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” ภายใต้นโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยที่ผ่านมา ได้ดำเนินการสร้างพันธมิตรทางการค้าใหม่เชื่อมโยงธุรกิจสู่เมืองรองต่างๆ ผ่านการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับเมืองคู่ค้าต่างๆ เช่น การลงนาม MOU กับเมืองโคฟุ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีส่วนทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น และได้ดำเนินการปรับรูปแบบการจัดงานแสดงสินค้า เป็นรูปแบบ เสมือนจริงซึ่งทำสำเร็จในการจัดงาน BGJF ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งยังได้จัดกิจกรรมเพื่อช่วยผู้ประกอบการและการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น เช่น การจัดงาน Phuket Gems and Jewelry Fest by Bangkok Gems and Jewelry Fair ณ จังหวัดภูเก็ต เมื่อเดือนธันวาคม 2564 เป็นต้น
โดยผลจากการดำเนินการตามมาตรการเชิงรุก จะช่วยส่งเสริมการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยได้เพิ่มขึ้น และมั่นใจว่าเป้าหมายการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในปี 2565 ที่ตั้งไว้ที่มูลค่า 234,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยสถานการณ์ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำไม่ขึ้นรูป) ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-มี.ค.) มีมูลค่า 62,546 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีมาก