สองแม่ลูกร้องสื่อพร้อมคลิปวีดีโอ ขอความช่วยเหลือ หลังวัดใกล้บ้านแอบทำประชาคมแค่ 15 คน เพื่อตัดต้นสักขนาดใหญ่อายุร้อยปีแล้วขายให้นายทุน ขณะตัดเกิดพลาดท่าต้นสักตกใส่บ้านพังไปครึ่งหลัง แต่เกี่ยงกันรับผิดชอบ
เมื่อช่วงค่ำวันนี้ 12 มิ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนเพื่อขอความช่วยเหลือ พร้อมคลิป วีดีโอ เหตุการณ์ กรณี วัดอุดมวิทยาราม หรือ (โรงเกวียน) ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ได้ดำเนินการตัดต้นสักทองขนาดใหญ่ อายุร่วมร้อยปี จำนวน 4 ต้น จาก 6 ต้น โดยทางวัดได้ให้เหตุผลว่า ในอนาคต 4 ถึง 5 ปี อาจมีกิ่งก้านของต้นสักหล่นทับบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย โดยเบื้องต้นทางวัดได้เรียกชาวบ้านและคณะกรรมการมาร่วมลงประชามติ แต่ปรากฏว่ามีชาวบ้านมาร่วมแสดงความคิดเห็นเพียง 15 คน จากคนในหมู่บ้านทั้งหมดแต่ทางวัดก็ยังดำเนินการต่อโดยมีการว่าจ้างนายวัฒนชัย เชื้อสงฆ์ เป็นผู้ดำเนินการ
จนถึงวันที่ 10 มิ.ย. 2565 วัฒนชัย พร้อมด้วยทีมงานได้เข้ามาทำการตัดด้วยการริดกิ่งออกก่อนที่จะทำการตัดต้นสัก ต้นแรกผ่านไปด้วยดี แต่มาถึงต้นที่สอง ปรากฏว่า ขณะที่กำลังตัดส่วนปลายซึ่งมีใบและน้ำหนักมากกว่าโคนจึงหมุนไปฟาดกับบ้านเลขที่ 1/5 ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ของนางฉุน คงกล่อม อายุ 65 ปี ทับหลังคาบ้าน และหล่นลงไปในห้องนอน ซึ้งนับว่ายังโชคดีที่นางฉุนไม่ทันได้เข้าไปนอนซึ่งปกติจะเข้าไปนอนพักผ่อนเนื่องจากมีโรคประจำตัว ทำให้ ห้องนอนและห้องโถงพังเสียหายไปครึ่งหลัง รวมข้าวของอุปกรณ์ขอใช้อีกจำนวนมาก
หลังเกิดเหตุ ทางผู้ตัดยอมรับข้อผิดพลาดและจะชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด แต่หลังมีการเจรจาทาง เจ้าของบ้านให้ช่างมาคำนวณต้องใช้เงิน สามแสนกว่าในการซ่อมแซม แต่ทางนายวัฒนชัย จ่ายแค่ 170.000 บาท แต่ยังไม่ตกลงจึงนัดวันเจรจาใหม่แต่ถึงวันนัด วันที่ 13 มิ.ย. 2565 ก็ขอเลื่อนไปอีก
ซึ่งภายหลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความ ร.ต.อ.สุมิตร อัครเนตร ร้อยเวร สภ.เมืองปราจีนบุรี เป็นเบื้องต้นก่อนที่จะเข้าแจ้งความยังมีนายตำรวจแนะนำให้ตกลงกันก่อนหากตกลงไม่ได้ค่อยมาแจ้งความ แต่พอขะมาแจ้งกลับบอกว่าเป็นคดีแพ่ง ตนจึงคิดว่าน่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงขอให้สื่อช่วยเรียกร้องความถูกต้องเป็นธรรมกับครอบครัว ซึ่งขณะนี้ ต้องทนนอนในบ้านที่พังหากฝนตกก็ไม่รู้ว่าจะไปนอนที่ไหน
ขณะเดียวกัน ทางผู้สื่อข่าวได้เข้าไปในวัดอุดมวิทยาราม เพื่อสอบถาม พระอธิการงู เจ้าอาวาสถึงเหตุผลการตัดต้นสักทองอายุนับร้อยปีจนทำให้เกิดปัญหาบานปลายมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย แต่ปรากฏว่า ทางเจ้าอาวาสได้เข้าจำวัดแล้ว สอบถามทางชาวบ้านก็ไม่เห็นต้นสักที่ถูกตัด มีเพียงบางคนบอกว่า มีการขนย้ายไปทางจังหวัดภาคเหนือแล้ว
ทีมข่าวปราจีนบุรี