นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในกิจกรรมเสวนาแลกเปลี่ยนแนวทางพัฒนาการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย พร้อมร่วมพิธีลงนามสัญญารับทุนนักศึกษาโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่นที่ 3 ปีการศึกษา 2565 โดยมี นายกมล รอดคล้าย ที่ปรึกษารมช.ศึกษาธิการ ร่วมเดินทางมาด้วย และมี ผศ.ดร.รังสฤษฏ์ อินทรโม คณะที่ปรึกษา รมช.ศธ.ซึ่งเป็นผู้ประสานงานในครั้งนี้ ว่าที่ร้อยตรีสมชาย งามสุขสวัสดิ์ ศึกษาธิการจังหวัดราชบุรี ผศ.ดร.ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ บุคลากร ผู้ปกครอง และ นักศึกษา ร่วมให้การต้อนรับ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จังหวัดราชบุรี
นางกนกวรรณ กล่าวตอนหนึ่งว่า ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติและดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในกิจกรรมเสวนาแลกเปลี่ยนแนวทางพัฒนาการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย และพิธีลงนามสัญญารับทุนนักศึกษาโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่นที่ 3 ปีการศึกษา 2565 ระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง กับ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ในครั้งนี้ จากการกล่าวรายงานของท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงทำให้ทราบว่า มีการมอบทุนนี้มาแล้ว 2 รุ่น ในสาขาการศึกษาปฐมวัย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กสศ.ได้ให้ความสำคัญและให้ความเชื่อมั่นกับการผลิตบัณฑิตเพื่อรับใช้สังคมของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ที่สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการศึกษาต้องเริ่มต้นจากเมล็ดพันธุ์ที่ได้รับการบ่มเพาะอย่างมีคุณภาพ เมื่อเมล็ดพันธุ์ได้เติบโตอย่างมีคุณภาพมีความแข็งแรงก็จะแผ่รากแก้วเพื่อยึดเหนี่ยวผืนแผ่นดินและสร้างโครงสร้างที่แข็งแรงกระทั่งเกิดการเจริญเติบโตงอกงามและสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพเพื่อยึดโยงทำให้ประเทศไทยของเราพัฒนาต่อไป
ทั้งนี้ยังทราบอีกว่าต่อไปในปีการศึกษา 2566 จะยื่นข้อเสนอขอรับทุนในโครงการครูรัก(ษ์) ถิ่นในสาขาการประถมศึกษาเพิ่มเติมอีก 1 สาขา ดิฉันคิดว่าการทำงานของ กสศ. ลักษณะนี้เป็นการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ผู้ที่มีใจรักในวิชาชีพครูอย่างแท้จริง ด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ทางโครงการฯ ได้กำหนดไว้ อาทิ ต้องเป็นนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือเรียกได้ว่ายากจนตามเกณฑ์รายได้ที่ กสศ. กำหนด อีกทั้งต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้บัณฑิตเหล่านี้กลับไปพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง เป็นต้น
"ครูโอ๊ะขอชื่นชม กสศ. และมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ที่ร่วมกันค้นหาให้โอกาสทางการศึกษา และพัฒนาผู้เรียนได้สมตามเจตนารมณ์ของโครงการฯ ขอให้มีโครงการดีๆแบบนี้ในทุกๆปี ทั้งยังขอชื่นชมโรงเรียนต่างๆ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ศึกษานิเทศก์ นักวิชาการ และทุกภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ที่มาร่วมงานในวันนี้เพราะสิ่งที่จะดำเนินการเป็นสิ่งที่สำคัญ การทำงานถึงรากหญ้าจะทำให้ก่อเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง โดยเฉพาะโครงการครูรัก (ษ์) ถิ่น ที่จะได้กลับไปทำงานให้กับพื้นถิ่นของตนเองสามารถกลับไปดูแลครอบครัวที่อยู่ในชนบทได้ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการร่วมกันเติมเต็มและเป็นโอกาสที่ดี เพราะในเรื่องของหลักสูตร ในเรื่องของกิจกรรมได้ถูกออกแบบร่วมกันจากการบูรณาการกันอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นมิติที่สร้างความยั่งยืน เข้มแข็ง และสร้างการพัฒนาให้กับครูรักษ์ถิ่นรวมไปถึงคนในชุมชน คนในพื้นที่ได้ก่อประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป