ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศตำรวจภูธรภาค 6 พร้อม กสทช.ภาค 3 เปิดยุทธการ ”ตัดไฟต้นลม” ทลายขบวนการคอลเซ็นเตอร์ชายแดนอำเภอแม่สอด เร่งขยายผล
เมื่อเวลา 16.00 น.( 21 มิ.ย.65 ) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6, พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบช.ภ.6, พล.ต.ต.ณัฐวุฒิ ภาคภูมิ ผบก.สส.ภ.6, พล.ต.ต.ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ตาก, พ.ต.อ.สารนัย คงเมือง รอง ผบก.สส.ภ.6 และ พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ แก้วอ่อน ผกก.สภ.แม่สอด, พ.ต.อ.อนิวรรตน์ สุรินทวงศ์ ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.6 และพ.ต.อ.ชัชวาล พวงคิด ผกก.สภ.วิเชียรบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปอส.ภ.6 เจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช. ภาค 3 นำโดย นายมนต์ชัย ณ ลำพูน ผอ.สำนักงาน กสทช. ภ.3 และนายภาณุพงษ์ ชัยศรีทิพย์ ผอ. สำนักงาน กสทช. เขต 31 ได้ร่วมกันเปิดยุทธการ “ ตัดไฟต้นลม ทลายขบวนการคอลเซ็นเตอร์ชายแดนแม่สอด ” หลังเจ้าหน้าที่ร่วมกันลงพื้นที่สืบสวนจนพบแหล่งส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตข้ามแนวชายแดนไทย-เมียนมา จำนวน 3 จุด ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเมย อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เจ้าหน้าที่จึงวางแผนนำกำลังเข้าไปตรวจสอบเพื่อตัดตอนขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชายแดนจังหวัดตาก
โดยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด ศปอส.ภ.6 และ สำนักงาน กสทช. ภาค 3 ได้จู่โจมเข้าปิดล้อมตรวจค้นโดยนำหมายศาลจังหวัดแม่สอดจำนวน 3 หมายเข้าไปตรวจค้นภายพื้นที่หมู่บ้านท่าอาจ หมู่ที่ 3 และหมู่บ้านริมเมย หมู่ที่ 2 จำนวนสองจุด ซึ่งเป้าหมายทั้งสามจุดที่เจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นนั้นอยู่ในพื้นที่ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตากและเป้าหมายทั้งสามแห่งอยู่ตรงข้ามกับพื้นที่ตั้งบ่อนกาสิโนในประเทศเมียนมา ซึ่งผลการตรวจค้นทั้งสามเป้าหมายเจ้าหน้าที่พบบ้านเป้าหมายทั้งสามซึ่งดูจากภายนอกเป็นบ้านพักตามปกติแต่กลับมีเสาส่งสัญญาณต้องสงสัยและผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาเป็นชายไทย 1 รายและบุคคลเฝ้าเสาส่งสัญญาณซึ่งเป็นคนงานต่างด้าว 1 ราย สัญชาติเมียนมาร์ พร้อมตรวจยึดทลายจุดเสาส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นชุดรับส่งสัญญาณวิทยุคมนาคมได้ทั้งสิ้น 6 ชุดซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัยพร้อมอุปกรณ์ประกอบ เช่นสายนำสัญญาณและอุปกรณ์เสริมอีกจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายเร่งไปทำการสอบสวนขยายผลทางคดีหาผู้ร่วมขบวนการซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร กล่าวว่า ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศตำรวจภูธรภาค 6 พร้อม กสทช.ภาค 3 ได้ร่วมกันลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนคดีนี้มานานหลังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดหนักทั่วประเทศจนเจ้าหน้าที่ทราบพิกัดของกลุ่มขบวนการข้ามชาติได้ลักลอบส่งสัญญาณสื่อสารแบบผิดกฎหมายข้ามไปยังพื้นที่ของกลุ่มกระทำผิดซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ใช้พื้นที่แนวชายแดนอำเภอแม่สอดได้ลักลอบใช้อาคารพาณิชย์และบ้านเรือน ติดตั้งเสาสัญญาณส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อใช้สัญญานอินเตอร์เน็ตขับเคลื่อนขบวนการคอลเซ็นเตอร์เพื่อใช้หลอกลวงโทรข้ามประเทศเข้ามาหลอกลวงชาวไทย จนมีผู้เสียหายหลงกลตกเป็นเหยื่อทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 มาตรา 6 ห้ามมิให้ผู้ใด ทำ มี ใช้ นำออกหรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมเว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือทั้งปรับทั้งจำ และหากตรวจพบว่าเป็นการส่งสัญญาณไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อประโยชน์โดยทุจริต จะเป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 มาตรา 7 ประกอบมาตรา 67 มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินสิบล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทีมข่าว จ.ตาก