ทหาร ฉก.ร.14 ร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.พบพระ จ.ตาก เข้าซ่อมแซมบ้านเรือนของราษฎรไทย ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในฝั่งเมียนมา ขณะที่มีผู้หนีภัยชาวเมียนมา เข้ามายังฝั่งไทยสะสมแล้ว 631 คน
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2565 ทหารชุด บก.ควบคุม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 และ ร้อย ร.1413 ได้จัดกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.พบพระ จ.ตาก เข้าตรวจสอบบ้านเรือนของราษฎรไทยในพื้นที่ บ.หมื่นฤาชัย ม.5 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ที่ได้รับผลกระทบถูกสะเก็ดระเบิดจากการสู้รบในฝั่งเมียนมา ข้ามเข้ามาตกใส่บ้านเรือนของราษฎรไทย ได้รับความเสียหายจำนวน 3 หลัง พร้อมเร่งเข้าช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านให้ในเบื้องต้น ขณะเดียวกันได้ส่งทีมแพทย์สนาม และทหารจิตวิทยา เข้าไปปลอบขวัญชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดน อ.พบพระ ที่ยังขวัญผวาจากเสียงระเบิด ที่เกิดจากการสู้รบในฝั่งเมียนมาอยู่
สำหรับสถานการณ์การสู้รบในฝั่งเมียนมาวันนี้ ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดตาก รายงานว่า เกิดการปะทะกันระหว่าง ทหารเมียนมา กับกองกำลังชนกลุ่มน้อยเชื้อสายกะเหรี่ยง บริเวณบ้านอุเกรทะ อ.วาเล่ย์ใหม่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ของเมียนมา ด้านตรงข้าม บ้านวาเล่ย์ใต้ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนลึกเข้าไปในฝั่งเมียนมา ประมาณ 1 กิโลเมตร และทหารเมียนมา ได้ใช้อากาศยานปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่บ้านอุเกรทะฯ และบ้านทิบาโบ อ.ซูการี จ.เมียวดี ของเมียนมา ด้านตรงข้าม บ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก แต่ไม่ได้มีการรุกล้ำเข้ามายังฝั่งไทยแต่อย่างใด
ขณะที่ปัจจุบัน มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ที่มีความกังวลจากสถานการณ์ในพื้นที่ ได้เดินทางเข้ามายังฝั่งไทยเป็นการชั่วคราว สะสมแล้วจำนวน 631 คน ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 3 แห่ง คือ ที่วัดบ้านหมื่นฤาชัย ,บ้านมอเกอร์ไทย และที่บ้านวาเล่ย์เหนือ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมอยู่ในขณะนี้
ทีมข่าว จ.ตาก