ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
ชายแดนไทย-เมียนมา การสู้รบสงบลงหลังทหารกะเหรี่ยงถอนกำลังออกจากแนวปะทะพบมีความสูญเสียอย่างหนักทั้งสองฝ่าย
04 ก.ค. 2565

ชายแดนไทย-เมียนมา การสู้รบสงบลงหลังทหารกะเหรี่ยงถอนกำลังออกจากแนวปะทะพบมีความสูญเสียอย่างหนักทั้งสองฝ่าย ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดตากลงพื้นที่เยี่ยมผู้อพยพชาวเมียนมาพร้อมเข้าปลอบขวัญชาวบ้านฝั่งไทยที่บ้านถูกสะเก็ดระเบิดที่ชายแดนอำเภอพบพระ จังหวัดตาก

เมื่อเวลา 14.00 น.( 3 ก.ค. 65 ) สถานการณ์ความตรึงเครียดที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งเป็นการสู้รบระหว่างทหารทหารเคเอ็นยู กองพัน 27 หน่วยจู่โจมที่ 201 และ 103 กองพลน้อยที่ 6 สู้รบกับทหารเมียนมา ฐานบ้านอูเกรทะ อำเภอซูการี จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามกับห้วยแม่หม้าย หมู่ที่ 2 บ้านวาเล่ย์ใต้ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เพื่อแย่งชิงพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ซึ่งมีการยิงปะทะด้วยอาวุธหนักนาน 7 วันเสียงปืนและเสียงระเบิดได้สงบลงชั่วคราวหลังทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่รอบฐานอูเกรทะและทหารเมียนมาหน่วยเสริมได้เข้าไปยึดฐานอูเกรทะคืนจากทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูได้สำเร็จหลังการปะทะด้วยอาวุธหนักนานกว่า 7 วัน 7 คืนเต็มซึ่งมีรายงานเบื้องต้นว่าทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูเสียชีวิตไป 17 นาย บาดเจ็บ48 นาย ส่วนทหารเมียนมาเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 70 นายและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากจากศึกชิงฐานอูเกรทะ แต่หลายฝ่ายยังคงต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ต่อไปอีกตลอดสัปดาห์นี้ 

ขณะเดียวกันแม้ว่าเสียงปืนการยิงปะทะจะสงบลงและทำให้สถานการณ์เริ่มจะคลี่คลายลงหลังตรึงเครียดมาตลอดนับสัปดาห์นั้น ชาวกะเหรี่ยงในเมียนมาซึ่งอพยพหนีภัยสงครามเข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวสามแห่ง คือที่ 1 บ้านมอเกอร์ไทย 2.บ้านวาเล่ย์เหนือ 3.บ้านหมื่นฤาชัย ซึ่งพื้นที่ทั้งสามแห่งนั้นอยู่ในอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งจัดเป็นศูนย์รองรับผู้หนีภัยจากการสู้รบชั่วคราวขณะนี้มียอดผู้หนีรวมทั้งสามแห่งจำนวน 595 คนจากเดิมที่มีมากกว่าหนึ่งพันคนซึ่งผู้หนีภัยซึ่งเป็นผู้ชายได้สมัครใจทยอยกันเดินทางกลับบ้านในฝั่งเมียนมาเพื่อเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินของตนเองในหมู่บ้านซึ่งบ้านเรือนส่วนใหญ่เสียหายอย่างหนักจากการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินรบเมียนมา ส่วนผู้อพยพหนีภัยสงครามส่วนที่เหลือซึ่งเป็นเด็กและผู้หญิงยังคงพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวที่ทางฝ่ายความมั่นคงอำเภอพบพระจัดไว้นั้น ผู้หนีภัยทั้งเด็กและผู้หญิงยังคงรอดูสถานการณ์ต่อสักระยะเพื่อความปลอดภัย ซึ่งช่วงเที่ยงที่ผ่านมานายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้เดินทางพร้อมกับนางวรรณฤดี กิจเจริญรุ่งโรจน์  นายกเหล่ากาชาดจังหวัดตาก ได้เดินทางไปมอบสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้หนีภัยจากการสู้รบทั้งสามแห่งในพื้นที่ชายแดนอำเภอพบพระ จังหวัดตาก โดยผู้ว่าราชการจังหวัดตากได้สั่งการเน้นให้เจ้าหน้าที่ดูแลผู้อพยพทุกคนอย่างดีที่สุดโดยเฉพาะเด็กเล็กมีการสั่งนมมามอบให้เด็กเล็กได้รับประทานเป็นพิเศษจนสร้างรอยยิ้มให้ผู้อพยพทุกคนเป็นอย่างมากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดตากเข้ามาดูแลเป็นอย่างดี 

ด้านนายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่าขณะนี้พื้นที่ปลอดภัยทั้งสามแห่งในพื้นที่ชายแดนอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ได้ช่วยเหลือผู้หนีภัยการสู้รบจากประเทศเมียนมาโดยมีการระดมสิ่งของเป็นน้ำดื่ม นมเด็กและวัตถุดิบอาหารสดมาประกอบอาหารจัดเลี้ยงผู้หนี้ภัยทั้งสามแห่งเป็นอย่างดีตามหลักมนุษยธรรมและมีการติดตั้งห้องน้ำสุขาเคลื่อนที่ประจำพื้นที่ทั้งสามแห่ง ส่วนบ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านหมื่นฤาชัย ซึ่งได้รับผลกระทบจากสะเก็ดระเบิดลอยข้ามชายแดนมาตกในบ้านจำนวน 3 หลังขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงอำเภอพบพระได้เข้าไปช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านพร้อมมอบถุงยังชีพเป็นให้กำลังใจชาวบ้านทั้งสามหลัง  ส่วนการส่งกลับผู้หนีภัยจากการสู้รบทั้งสามแห่งนั้นจะขึ้นอยู่กับความสมัครใจในการเดินทางกลับและคาดว่าภายในสองวันนี้หากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติผู้หนีภัยชาวเมียนมาทุกคนจะเดินทางกลับมาตุภูมิตามความสมัครใจ ซึ่งขณะนี้ทั้งฝ่ายปกครองจังหวัดตากและฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีขั้นตอนการปฏิบัติในการอำนวยความสะดวกในการส่งกลับแล้ว

ทีมข่าว จ.ตาก

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...