ในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. … วาระ 2-3 โดยที่ประชุมได้พิจารณามาตรา 6/3 เกี่ยวบัตรเลือกตั้งสองใบ คนละเบอร์ โดยสมาชิกที่สมาชิกที่สงวนคำแปรญัติได้ขึ้นอภิปรายเห็นว่า บัตรเลือกตั้งส.ส.เขต และบัตรเลือกตั้งส.ส.บัญชีรายชื่อ ควรจะใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ เพื่อสะดวกต่อการจดจำของประชาชน และเป็นประโยชน์ต่อการหาเสียงและนำเสนอนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ รวมทั้งง่ายต่อการจัดการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ขณะที่ กมธ. ยืนยันว่าการใช้บัตรสองใบคนละเบอร์ เพราะหากใช้บัตรใบเดียวกันจะเกิดการซื้อเสียงได้ง่ายขึ้น ทำให้ ส.ส.เขต สัมผัสและอยู่กับประชาชนมากขึ้น และทำให้เกิดการพัฒนาทางการเมืองมากขึ้น การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และผู้สมัคร ส.ก. ประชาชนก็กาถูก สุดท้าย อย่าคิดว่าบัตรเหมือนกันมีแต่ด้านบวก แต่มีด้านลบด้วย เพราะครั้งต่อไปอาจจะมีบัตรเลือกตั้งลงแข่งขันกว่า 50 พรรค แต่ไม่ใช่ว่าทุกพรรคจะสามารถส่งลงแข่งขัน ส.ส.เขตทั้งหมดได้ ทำให้ในบางเขตจะมีบัตรเลือกตั้งยาวและจะมีช่องโหว และยืนยันว่าจะต้องทำตามรัฐธรรมนูญ
หลังจากอภิปรายเสร็จสิ้น นายชวนได้กดออดเรียกสมาชิกให้มาลงมติ ซึ่งกินเวลาร่วม 10 นาที แต่สมาชิกในห้องประชุมยังบางตา จนกระทั่ง นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ได้เสนอว่า ขณะนี้เวลาล่วงเลยมานานแล้ว ขอให้ปิดการประชุม และพิจารณาต่อในวันที่ 6 กรกฎาคม ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท. ขณะนี้เป็นเวลาลงมติ ฝ่ายค้านมีความพร้อมในการทำงาน และประธานขอให้แสดงตนมานานแล้ว ขอให้แสดงผลเลย ถ้าไม่ครบก็ปิดการประชุมและกลับบ้าน ไม่มีอะไร พวกตนจะรอดูผลการแสดงตนของสมาชิก นายชวนจึงแจ้งว่า ยังขาดอีก 100 กว่าคนเท่านั้นเอง และเมื่อสมาชิกปรารถนาให้ปิดประชุม ก็ปิดประชุม โดยปิดประชุมในเวลา 19.22 น.