นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบีย เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เกิดการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเดินหน้าอย่างรวดเร็ว
ซึ่งต่อมานายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำภาคเอกชนไทย เยือนซาอุดีอาระเบีย เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีของการเริ่มต้นการสานสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ หลังจากมีการฟื้นฟูความสัมพันธ์กันอย่างเป็นทางการ
ล่าสุด สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดงาน “Thai – Saudi Business Forum” ขึ้น ที่ไอคอนสยาม เพื่อเป็นการขยายผลการค้าระหว่างสองประเทศ โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 300 คน เป็นนักธุรกิจจากซาอุดีอาระเบียประมาณ 100 คน
ซึ่งในช่วงเช้าได้รับเกียรติจาก นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเปิดงาน และเน้นย้ำว่า ไทยและซาอุดิอาระเบีย มุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามแผนยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี ไทย-ซาอุดีอาระเบีย โดยจะมีการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงและผู้แทนในด้านอื่น ๆ ระหว่างกันให้มากขึ้น ภายใต้ผลประโยชน์ร่วมของสองประเทศ
นายสนั่น กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน มีชาวซาอุดิอาระเบียเดินทางมายังประเทศไทยแล้วหลายหมื่นคน โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนที่มีความเชื่อมั่นในการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งสนใจการลงทุนภาคเกษตร เทคโนโลยี บริหารจัดการน้ำ มีอุปกรณ์ในการช่วยทำเกษตรสมัยใหม่ และยินดีที่จะส่งบุคลากรของซาอุดิอาระเบียมาไทย เพื่อลงทุนร่วมกันเกี่ยวกับภาคเกษตร
ส่วนความคืบหน้าการเจรจานำเข้าปุ๋ยจากซาอุดิอาระเบียจากการที่ 3 ฝ่าย อาทิ กระทรวงพาณิชย์โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นักธุรกิจให้มีการพบกันระหว่างผู้ส่งออกปุ๋ยรายใหญ่ 3 รายของซาอุฯ กับผู้นำเข้าปุ๋ยของไทยเพื่อให้ประเทศไทยมีปริมาณปุ๋ยพอใช้สำหรับเกษตรกรนั้น เบื้องต้น ซาอุฯมีความยินดีที่จะช่วยจำหน่ายปุ๋ยให้ไทย คาดว่าจะนำเข้าปุ๋ยจากซาอุฯได้ในปริมาณ 1 ล้านตัน โดยเป็นการทยอยนำเข้า ขณะที่ประเทศไทยมีการนำเข้าแต่ละปีอยู่ที่ 5 ล้านตัน
Mr.Krayem S. Alenezi, Member the Board of Directors of the Riyadh Chamber ในฐานะผู้นำคณะนักธุรกิจซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า การเยือนประเทศไทยในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในแผนการขับเคลื่อนและขยายการค้า การลงทุน ตามนโยบาย Saudi Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ลดการพึ่งพาน้ำมัน
และซาอุดีอาระเบียยังมีแผนพัฒนาระบบโลจิสติกส์ในระดับกิกะโปรเจกต์โดยมุ่งหวังที่จะเชื่อมโยงเข้ากับแผนการพัฒนาอีอีซีของไทย เพื่อยกระดับระบบขนส่งโลจิสติกส์ของสองประเทศ นอกจากนี้ หอการค้าริยาดยังได้ร่วมลงนาม MOU กับหอการค้าไทย
โดยมีการลงนามข้อตกลงร่วมกันจำนวน 12 ฉบับ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการลงทุนระหว่างกัน ผ่านความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักธุรกิจของทั้งสองประเทศ
การเยือนไทยครั้งนี้ จะส่งผลต่อมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันมากขึ้นหลายหมื่นล้านบาท