ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 10 ก.ค. 65 ที่จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ภูสิงห์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ อส.อ.ภูสิงห์, ตำรวจ ตม., ทหาร ฉก. 3, ทหาร ฉก.กรม ทพ. 23, เจ้าหน้าที่ศุลกากร, เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศช่องสะงำ, เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าช่องสะงำ ร่วมกันเปิดประตูจุดผ่านแดนและคอยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนชาวกัมพูชาที่ข้ามแดนเข้ามาเพื่อซื้อหาสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค ที่ตลาดนัดเมืองใหม่ช่องสะงำ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดผ่านแดนประมาณ 2,500 เมตร มีรถยนต์โดยสารและจักรยานยนต์รับจ้างคอยรับส่งชาวกัมพูชาจากจุดผ่านแดนถึงตลาดนัดเมืองใหม่ โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคอยตรวจเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน และตอนที่จะเข้าตลาดนัดก็มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเคร่งครัดวันอาทิตย์นี้ มีชาวกัมพูชาข้ามมาซื้อสินค้าและมาเที่ยวกันคึกคัก
จ.อ. สมควร สิงห์คำ นายอำเภอภูสิงห์ กล่าวว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลได้ปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำมาเป็นเวลานาน จนกระทั่งสถานการณ์คลี่คลาย จึงได้เปิดด่านมาตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม 2565 การค้าขายผ่านจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำมีมูลค่าโดยเฉลี่ยเดือนละประมาณ 200 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าโรงงาน วัสดุก่อสร้าง น้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องอุปโภคบริโภค จึงไม่ค่อยจะส่งผลรายได้ให้ชาวอำเภอภูสิงห์หรือจังหวัดศรีสะเกษมากนัก ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลพื้นที่จุดผ่านแดนช่องสะงำ จึงได้เปิดตลาดนัดเมืองใหม่ช่องสะงำขึ้นในวันพฤหัสบดีและวันอาทิตย์ เพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวอำเภอภูสิงห์และพื้นที่ใกล้เคียงได้นำสินค้ามาขายเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนและมีรายได้เข้าสู่ชาวอำเภอภูสิงห์ ชาวศรีสะเกษและจังหวัดใกล้เคียง
“ก็ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษ และนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ ที่มาเที่ยวช่องสะงำ ก่อนจะข้ามไปเที่ยวฝั่งประเทศกัมพูชาในวันอาทิตย์และวันพฤหัสบดีขอให้มาแวะเที่ยวชมและซื้อสินค้าที่ตลาดนัด เพื่ออุดหนุนสินค้าของชาวอำเภอภูสิงห์ ซึ่งการข้ามแดนไปเที่ยวฝั่งกัมพูชาก็ขอให้มีการฉีดวัคซีนครบโดส และใช้หนังสือผ่านแดนหรือบอเดอร์พาส แต่ถ้าจะเดินทางไปไกลกว่าพื้นที่จังหวัดอุดรมีชัยก็ต้องใช้พาสปอร์ต” จ.อ.สมควร กล่าว.
ทีมข่าวศรีสะเกษ