ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศ หรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ…. ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระ 2-3
ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้มี 43 มาตรา กรรมาธิการฯ แก้ไข 12 มาตรา มีสาระสำคัญคือ การเพิ่มมาตรการติดตามผู้กระทำความผิดทางอาญาเกี่ยวกับเพศหรือการใช้ความรุนแรง เช่น การฆาตกรรม การข่มขืนกระทำชำเรา ความผิดทางเพศเกี่ยวกับเด็ก การทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ที่แม้จะถูกจำคุกพ้นกำหนดโทษ ได้รับการปล่อยตัวสู่สังคมแล้ว แต่ผู้กระทำความผิดส่วนหนึ่งมีแนวโน้มทำผิดซ้ำในรูปแบบเดิมอีก จึงต้องมีกฎหมายเฉพาะเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ
โดยกำหนดให้มีทั้งมาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด มาตรการเฝ้าระวังภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ และมาตรการคุมขังฉุกเฉิน ป้องกันการกระทำความผิดซ้ำที่อาจเกิดขึ้นอีก
ทั้งนี้ ในส่วนมาตรการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด จะมีมาตรการทางการแพทย์ สามารถให้ยากดฮอร์โมนเพศชาย (ฉีดให้ฝ่อ) แก่ผู้กระทำผิด หากเห็นว่ามีความจำเป็น โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช และอายุรศาสตร์อย่างน้อย 2 คน เห็นพ้องกันและได้รับความยินยอมจากผู้กระทำผิด และให้นำผลการใช้มาตรการทางการแพทย์ดังกล่าว เป็นเงื่อนไขพิจารณาลดโทษ พักการลงโทษ หรือให้ผู้กระทำผิดได้รับการปล่อยตัวก่อนกำหนดได้
ทั้งนี้ ในที่ประชุม ส.ว. มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะมาตรา 21 เรื่องมาตรการทางการแพทย์ที่เปิดช่องให้ฉีดยาลดฮอร์โมนเพศแก่ผู้กระทำผิด ทั้งนี้ มีส.ว.ให้ความสนใจอภิปรายหลายคน ส่วนใหญ่เห็นด้วยในหลักการ แต่ยังติดใจว่าจะปฏิบัติได้จริงหรือไม่
ขณะที่พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม ส.ว. อภิปรายว่า การฉีดยาให้ฝ่อถือเป็นความลำบากของการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ที่ไม่มีกฎหมายรองรับ คงไม่มีแพทย์คนใดทำให้ หากจะทำได้แพทยสภาต้องไปออกหลักการในสิ่งที่กฎหมายไม่ได้รองรับไว้ก่อน รวมถึงมาตรา 21 ระบุอีกว่า การฉีดให้ฝ่อจะกระทำได้หากผู้กระทำผิดยินยอม หรือเว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น อยากทราบคำว่า “กฎหมายระบุไว้เป็นอย่างอื่น” คืออะไร เพราะเหมือนเขียนแบบตีเช็กเปล่า เปิดช่องให้ผู้กระทำผิดถูกฉีดยาแม้ไม่ยินยอมก็ตาม
ด้านนพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ ส.ว.อภิปรายว่า การฉีดยาดังกล่าวไม่ได้หมายถึงทำให้ไข่ฝ่อ แต่เป็นยาลดฮอร์โมนทางเพศ หลายคนบอกไม่ได้อยากทำผิด แต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เวลาเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า จึงอยากให้ช่วยให้ควบคุมตัวเองได้ ส่วนข้อสงสัยว่าผู้กระทำความผิดต้องยินยอมให้ฉีดจึงจะกระทำได้ แล้วจะมีคนยินยอมหรือไม่นั้น เชื่อว่ามีโดยคนที่ยินยอมให้ฉีดคือ คนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ รวมถึงถ้ายินยอมจะได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษให้เบาลง
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว. ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า ข้อกังวลถึงวิธีการรักษาด้วยรูปแบบอื่นนั้น ไม่ใช่การใช้วิธีการรุนแรงกับกลุ่มเป้าหมาย หรือผู้ป่วยอย่างที่อภิปรายกัน แต่ต้องเป็นวิธีการที่ผ่านความเห็นชอบจากผู้วิชาชีพประกอบเวชกรรม ที่กำหนดไว้ว่าต้องมีผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อย 2 คน เห็นพ้องต้องกัน และต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขาจิตเวชศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญสาขาอายุรศาสตร์ อย่างน้อยสาขาละ 1 คน จึงไม่ต้องกังวล และการจะดำเนินการทั้งหมดต้องได้รับความยินยอมจากผู้ป่วย
ด้านพล.อ.นพ.ไตรโรจน์ ครุทเวโช ส.ว. ในฐานะกรรมาธิการ ชี้แจงว่า ปัจจุบันยาที่ใช้รักษาคือยาลดฮอร์โมนเพศชาย เพื่อกดการสร้างฮอร์โมน์ที่ต้องฉีดทุก 3 เดือน แต่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าทำให้ไข่ฝ่อจริงหรือไม่ แต่ต่อไปจะมียากิน ที่ขณะนี้พบว่าช่วยลดพฤติกรรมผิดปกติได้ ส่วนกรณีที่ยังไม่มีการออกกฎหมายรองรับให้แพทย์ฉีดยาให้ฝ่อนั้น ทั้งนี้เชื่อว่าหลังกฎหมายฉบับนี้ผ่าน แพทยสภาจะไปออกกฎหมายเพื่อรองรับกฎเกณฑ์ดังกล่าวต่อไป
หลังเสร็จสิ้นการอภิปรายที่ประชุมลงมติเห็นชอบ ด้วยคะแนน 137 เสียง ไม่เห็นด้วย 3 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง
จากนั้นหลังพิจารณาร่างกฎหมายครบทั้ง 43 มาตรา เวลา 17.10 น. ที่ประชุมลงมติวาระ 3 เห็นชอบด้วยคะแนน 145 ไม่เห็นด้วย ไม่มี งดออกเสียง 2 เสียง จากนั้นส่งให้ ครม.เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป