น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยถึงกรณีปัญหาล้งจีนที่ขาดการควบคุมว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนนิติบุคคลของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมหลังการเก็บเกี่ยวพืชผล และการขายส่งผักผลไม้ ปรากฏว่ามีนิติบุคคลจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,405 ราย สำหรับการพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับสถานะการจดทะเบียนผู้ส่งออกผักและผลไม้กับกรมวิชาการเกษตร จำนวน 391 ราย สามารถแบ่งออกเป็น 1) ล้งไทย ประกอบด้วย 1.1 ล้งบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย จำนวน 236 ราย 1.2 ล้งนิติบุคคลที่คนไทยถือหุ้น 100% จำนวน 116 ราย 2) ล้งที่เป็นวิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์ จำนวน 7 ราย 3) ล้งที่ร่วมลงทุนระหว่างคนไทยกับชาวต่างชาติ จดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคล โดยคนไทยถือหุ้นมากกว่าหรือเท่ากับ 51% ในกรณีนี้ถือว่าเป็นนิติบุคคลไทย จำนวน 32 ราย ซึ่งเป็นการร่วมทุนจาก จีน (26 ราย) อินเดีย (2 ราย) ฝรั่งเศส (2 ราย) ลักเซมเบิร์ก (1 ราย) และ ฮ่องกง (1 ราย) ล้งที่กล่าวมาข้างต้น สามารถรับซื้อผลไม้เพื่อการจำหน่ายในประเทศและสามารถส่งออกไปต่างประเทศได้ โดยต้องปฏิบัติตามประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกผักและผลไม้ พ.ศ.2553
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวต่อไปว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าติดตามเฝ้าระวังการประกอบธุรกิจของล้งผลไม้อย่างใกล้ชิด โดยป้องกันไม่ให้ใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง หรือ นอมินี รวมทั้งตรวจสอบบัญชีของผู้ประกอบธุรกิจให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ. 2543 และมีแผนลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 อย่างเคร่งครัดเป็นประจำ และในปีนี้ กรมฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบล้งผลไม้ร่วมลงทุนตามฤดูกาลผลผลิตผลไม้ไทย และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีล้งร่วมลงทุนที่มีการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม กรมฯ ก็จะยังคงติดตามเฝ้าระวังต่อไป
นอกจากนี้ กรมฯ ให้การสนับสนุนส่งเสริมล้งไทยให้มีศักยภาพ สามารถแข่งขันได้ โดยกำหนดแผนพัฒนาศักยภาพล้งไทยให้มีความเข้มแข็งและต่อยอดองค์ความรู้โดยใช้นวัตกรรมช่วยในการขยายตลาด เช่น การใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Commerce มาช่วยในการขยายตลาด โดยได้มีการเปิดตัวโครงการ Offline 2 Online @ จันทบุรี สู่ www.eastfruit.org ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อเป็นตลาดกลางผลไม้ออนไลน์ของภูมิภาคตะวันออกและใช้ในการประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น พร้อมสนับสนุนสภาพคล่องทางการเงินแก่ล้งไทยให้มีเงินทุนในการพัฒนาและขยายกิจการเพื่อรองรับการแข่งขัน