เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กรณีกล่าวหาว่าปกปิดทรัพย์สินของตัวเองรายของ หจก.บุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น โดยใช้ลูกจ้างเป็นนอมินี และจงใจปฏิบัติหน้าที่ และใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย เพื่อให้มีส่วนได้รับผลประโยชน์จากโครงการต่าง ๆ ของรัฐหรือไม่ ว่า การซื้อขายหุ้นดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล เมื่อขายไปแล้ว หจก.บุรีเจริญฯ ก็ได้กลับมาได้งานของกระทรวงคมนาคม ขณะที่นายศักดิ์สยามดำรงตำแหน่ง โดยตนเคารพเพราะว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของนายศักดิ์สยามที่จะขายหุ้นในราคาเท่าไหร่ก็ได้ ส่วนจะสมเหตุสมผลหรือไม่ประชาชนก็จะเป็นคนตัดสิน การทำธุรกรรมครั้งนี้จะเป็นนิติกรรมอำพรางเท่านั้น
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวถึงประเด็นที่ระบุเอาไว้ว่า หากมีการทำธุรกรรม 120 ล้านบาท เงินในส่วนนี้หายไปไหนจากบัญชีทรัพย์สินของท่าน เพราะเกิดขึ้นเพียง 16 เดือนก่อนที่จะยื่นบัญชีทรัพย์สิน และเป็นการซื้อขายหุ้นที่แปลกมาก เนื่องจากมีการจ่ายเงินก่อนโอนหุ้นให้กันซึ่งมองว่าจะต้องมีความเชื่อใจกันมากพอสมควร ดังนั้นข้อสังเกตคือมีการโอนหนี้ดังกล่าวจริงหรือไม่ เพราะหากมีการขายหุ้นในราคา 120 ล้านบาทจริง และโอนหนี้ให้ผู้จัดการคนใหม่แปลว่าได้กำไรจากการขายกิจการ 69 ล้านบาท หากไม่ได้มีการโอนหนี้ออกไป แปลว่านี่ก็ดังกล่าวถือเป็นหนี้สินส่วนตัวต้องมีการยื่นบัญชีต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
“มองว่านายศักดิ์สยามไม่มีทางออกแล้ว เพราะจากการอภิปราย และข้อมูลรวมไปถึงพยานหลักฐานได้มัดตัวท่านแน่นพอสมควร ผมจะมีการพูดคุยกับฝ่ายกฎหมายของพรรค รวมไปถึงพรรคร่วมฝ่ายค้าน และพรรคประชาชาติที่ได้อภิปรายในเรื่องดังกล่าวเพื่อยื่นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น ป.ป.ช. เพื่อไต่สวนการยื่นบัญชีทรัพย์สิน และการถือหุ้นถือครองที่ใช้นิติกรรมอำพรางหรือไม่” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว