กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ นัด 5 หน่วยงานพันธมิตรร่วม MOU พัฒนาโปรแกรมบัญชีสำหรับ SMEs เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการดำเนินธุรกิจจาก Traditional SMEs สู่การเป็น Smart SMEs ที่มีศักยภาพสูงตามยุทธศาสตร์Thailand 4.0
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการ “การจัดทำโปรแกรมบัญชีสำหรับ SMEs” ระหว่าง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บริษัท คริสตอลซอฟท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ว่า กรมฯ ในฐานะเป็นหน่วยงานที่ให้การส่งเสริมพัฒนาด้านการจัดทำบัญชีของภาคธุรกิจ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการจัดทำระบบบัญชีที่มีความถูกต้อง ครบถ้วน มีมาตรฐานสากล ซึ่งจะสะท้อนถึงศักยภาพและช่วยยกระดับคุณภาพให้ธุรกิจจนสามารถแข่งขันได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
“ในวันนี้ (23 พฤษภาคม 2560) นับเป็นโอกาสที่ดี และเป็นข่าวดีของผู้ประกอบการ SMEs ไทยที่พันธมิตรทั้ง 6 หน่วยงาน ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ “การจัดทำโปรแกรมบัญชีสำหรับ SMEs” ซึ่งเป็นโปรแกรมบัญชีสำหรับ SMEs ที่มีการทำงานที่ครบถ้วน รองรับการประกอบธุรกิจของSMEs ได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำแบบครบวงจร ทั้งการเก็บข้อมูลการขายและการจ่ายเงิน (Point of Sale : POS) การจัดทำบัญชีและจัดเก็บเอกสารประกอบการลงบัญชี รวมไปถึงการจัดทำงบการเงินและการนำส่งงบการเงินผ่านระบบการรับงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้แก่ธุรกิจ SMEs ในการจัดเก็บข้อมูล ประมวลผล และการใช้ข้อมูลทางการเงินในการตัดสินใจทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น โดยโปรแกรมดังกล่าวสามารถทำงานได้ทั้งบน PC Smart Phone และTablet ด้วย INET Cloud Technology ที่ได้มาตรฐานระดับโลก แบบ Hybrid สามารถทำงานได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์รองรับระบบ e-Tax ของกรมสรรพากร และระบบ e-Payment ของธนาคาร ภายใต้โครงการ National e-Payment โดยเป็นการให้บริการแบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนธุรกิจ SMEs อีกทางหนึ่งด้วย
ดังนั้น โปรแกรมบัญชีสำหรับ SMEs ที่พัฒนาโดยพันธมิตรในครั้งนี้จึงเหมาะกับธุรกิจ SMEs ทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล สามารถรองรับประเภทธุรกิจซื้อมาขายไปและธุรกิจบริการ โดยในปัจจุบันมีจำนวนธุรกิจที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รวมทั้งสิ้น 1,577,779 ราย แบ่งเป็นนิติบุคคล 661,998 ราย และทะเบียนพาณิชย์ (บุคคลธรรมดา) 915,781 ราย”