กรณีมีการเสนอข้อมูลผ่านโซเชียลของบางบุคคลที่ ได้โพสต์ว่า หลังเกิดเหตุระเบิดหลายครั้งที่ผ่านมา ทำให้ คสช.อาจพิจารณาใช้อำนาจตามมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ประกอบกับมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว ปี 2557 เพื่อนำคดีด้านความมั่นคงบางคดีไปอยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลทหาร โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่า คสช. จะใช้โอกาสจากเหตุการณ์ระเบิดนี้เพื่อนำคดีความมั่นคงกลับเข้ามาเข้ากระบวนการพิจารณาในศาลทหาร ซึ่งไม่เชื่อว่าศาลทหารจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ ในทางตรงกันข้ามอาจเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นคล้ายกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ชี้แจงว่า ความรุนแรงใน พื้นที่ จชต. คงไม่เกี่ยวข้องกับการใช้กฎหมายพิเศษของ จนท. เพราะที่มาของกฎหมายพิเศษก็เพื่อนำแก้ปัญหาเมื่อเกิดความรุนแรง และเจตนารมณ์ในการใช้กฎหมายพิเศษ หลักๆ ก็เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานของ จนท.ให้สอดรับกับสถานการณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนปกติทั่วไป. ส่วนใหญ่ช่วยในการอำนวยความสะดวกให้ จนท. ได้เข้าถึงเพื่อควบคุมตัวผู้กระทำความผิด และการสนับสนุนให้กระบวนการสืบสวนสอบสวนมีประสิทธิภาพมากขึ้น. ส่วนในขั้นกระบวนการในการพิจารณาคดียังคงอยู่ในอำนาจของศาลปกติ
สำหรับกรณี ที่กล่าวถึง คสช.อาจพิจารณาใช้อำนาจตามมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ประกอบกับมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว ปี 2557 เพื่อนำคดีด้านความมั่นคงบางคดีไปอยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลทหารนั้น โฆษก คสช กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่รับข้อมูลใดๆ อาจยังเป็นเพียงข้อมูลในลักษณะเชิงความคิดเห็น อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาเรื่องความไม่สงบเรียบร้อยที่ส่งผลกระทบร้ายแรงโดยตรงต่อสังคม มีหลายคดีที่มีลักษณะค่อนข้างมีความซับซ้อน. นอกเหนือจากการใช้กระบวนการหรือวิธีตามปกติแล้ว จึงอาจต้องอาศัย คำสั่ง หน.คสช. มาช่วยสนับสนุนให้ในลักษณะมาช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งที่ผ่านมายังไม่ค่อยปรากฏว่าการใช้มาตรการเสริมต่างๆ ได้ก่อให้เกิดความเสียหายใดในเชิงลบ จึงขอให้มั่นใจว่าการแก้ปัญหาต่างๆ คสช. จะเลือกแนวทางมาตรการที่ดีและเหมาะสมที่สุด มาใช้ในการดูแลพี่น้องประชาชนและสังคมไทย