ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรณีปรากฏเป็นข่าวว่าสินค้าหลายประเภทปรับขึ้นราคาตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม 2565 เป็นต้นมา ขณะนี้กรมการค้าภายในยังคงขอความร่วมมือผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้าให้ตรึงราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพต่อไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และในส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องขออนุญาตก่อนปรับราคา เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง และนม ณ วันนี้ยังคงไม่มีการอนุญาตให้ปรับราคา โดยต้องพิจารณาอย่างรอบคอบทั้งด้านราคาและด้านปริมาณสินค้า และพิจารณาเป็นรายๆ ไป เนื่องจากผู้ประกอบการแต่ละราย แต่ละสินค้า มีต้นทุนที่แตกต่างกัน ที่สำคัญต้องให้ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ สินค้าไม่ขาดแคลน ขณะเดียวกันผู้บริโภคก็จะต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุดซึ่งเป็นไปตามแนวทาง Win-win model ที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์) ที่ได้กำชับมาโดยตลอด
โดยการที่สินค้าบางรายการปรับราคาในช่วงเวลานี้ อาจเป็นเพราะผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้ามีต้นทุนที่สูงขึ้น รวมทั้งต้นทุนค่าขนส่งสินค้า ซึ่งเชื่อว่าผู้บริโภคมีความเข้าใจ อย่างไรก็ดี สินค้าหลายประเภทก็มีราคาทรงตัวหรือปรับลดลง อาทิ สินค้ากลุ่มของใช้ประจำวันหลายรายการ สินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้ากลุ่มยาและเวชภัณฑ์ เช่น ชุดตรวจ ATK และหน้ากากอนามัย เป็นต้น ส่วนสินค้าที่มีการปรับราคาสูงขึ้นส่วนใหญ่ก็มีแค่บางยี่ห้อที่ปรับราคา ดังนั้นผู้บริโภคจึงยังคงมีทางเลือกในการซื้อสินค้าทดแทนได้ นอกจากนี้การปรับราคาสินค้าส่วนหนึ่งอาจมาจากการปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นสินค้าหรือส่วนลดทางการค้า ซึ่งเป็นเรื่องของการแข่งขันตามกลไกตลาด
ทั้งนี้ กรมการค้าภายในจะดูแลอย่างเต็มที่ ไม่ให้มีการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาสูงเกินสมควร โดยได้ส่งเจ้าหน้าทึ่ออกสำรวจติดตามสถานการณ์เป็นประจำทุกวัน มีการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งกำชับให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจนเพื่อให้ผู้บริโภคมีข้อมูลที่ครบถ้วนถูกต้องในการเลือกซื้อสินค้า หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมทางการค้าสามารถร้องเรียนมาที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569 หรือช่องทางออนไลน์ หรือร้องเรียนที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะมีการตรวจสอบให้ความเป็นธรรมต่อไป