นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงหน้าฝนที่มีฝนตกสลับกับแดดแรง หรือช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เด็กทารกและเด็กเล็กควรได้รับการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ เนื่องจากยังไม่มีภูมิคุ้มกันตนเองที่ดีเพียงพอ หากไม่มีการดูแลที่ดี หรือป่วยเป็นไข้หวัด อาจส่งผลให้หลอดลมอักเสบ และเป็นโรคปอดบวมได้ โดยเฉพาะเด็กทารก การสร้างภูมิคุ้มกันโรคที่ดีที่สุด คือ ให้ลูกได้กินนมแม่อย่างเดียว ตั้งแต่แรกเกิด แต่เมื่ออายุ 6 เดือน ระบบย่อยและดูดซึมอาหารพัฒนาได้ค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว จึงให้เริ่มกินอาหารที่เหมาะสมตามวัย เช่น กล้วยน้ำว้า ไข่แดง ข้าว ผัก ผลไม้ และสารอาหารอื่น ๆ ควบคู่กับการกินนมแม่ต่อเนื่อง ไปจนถึงอายุ 2 ปีหรือนานกว่านั้น โดยเริ่มต้น ควรให้อาหารในปริมาณน้อย ๆ และมีความเหลว เพื่อความง่าย ในการฝึกกลืน และเหมาะสมต่อกระบวนการย่อย ช่วงเวลาการเริ่มในการให้อาหารเสริมชนิดใหม่ ๆ กับเด็กที่ยังไม่เคยกินอาหาร ควรเริ่มในเวลาเช้าหรือกลางวันที่ผู้เลี้ยงดูสามารถสังเกตอาการของเด็ก หลังจากการได้กินอาหาร เมื่อเด็กกินได้ดีในวันแรก ๆ จึงเพิ่มปริมาณและความเข้มข้นของอาหารเสริมขึ้นช้า ๆ ให้เหมาะสมกับช่วงอายุ
“สำหรับเด็กเล็ก ขอให้พ่อแม่ ผู้ปกครองดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ดังนี้ 1) ให้เด็กกินอาหารที่มีประโยชน์สารอาหารครบถ้วน และปรุงสุกร้อน เน้นกินผักหลากหลาย ทั้งสดหรือลวก ต้ม ผัด และผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง องุ่น สับปะรด เป็นต้น เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย ร่วมกับกินอาหารให้หลากหลาย 2) ดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น 3) พักผ่อนให้เพียงพอเมื่อมีฝนตกอากาศจะเย็น ให้ใส่เสื้อผ้าหนา ๆ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น และ 4) ให้เด็กได้เล่น ออกแรง ออกกำลังกาย หรืออาจจะเป็นการช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน เพื่อช่วยสร้างความอบอุ่นและสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว