นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ขอขึ้นราคามาปีกว่าแล้ว โดยขอขึ้นซองละ 2 บาท จากเดิม 6 บาทเป็น 8 บาท ตนพยายามตรึงราคาและดูว่าต้นทุนปรับสูงขึ้นเท่าไหร่ โดยมอบอธิบดีกรมการค้าภายในช่วยดูแลลึกในรายละเอียด เห็นใจทั้งผู้บริโภคและเห็นใจทั้งผู้ผลิตว่าตึงมาก เพราะต้นทุนสูงขึ้นจริง แต่การขอปรับขึ้นซองละ 2 บาทมากเกินไปหรือไม่ จะเป็นภาระกับผู้บริโภคจนเกินสมควรไหม สิ่งที่กรมการค้าภายในต้องใช้ดุลยพินิจให้ชัดเจนตามหลักวิชาการ ตามนโยบายที่มอบไปให้ปรับจากต้นทุนที่เป็นจริง ลงลึกในการวิเคราะห์รายละเอียด ไม่ใช่เหมารวมแล้วเจรจาเหมือนซื้อขายทั่วไป เพราะเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของผู้บริโภคจำนวนมาก ต้องไปดูว่า 2 บาทที่ขึ้นไปเกินสมควรหรือไม่
"ถ้าจำเป็นต้องปรับเพราะต้นทุนสูงขึ้นจริง พิสูจน์แล้วเพราะดูตัวเลขควรจะแค่ไหน เพื่อให้ผู้บริโภครับภาระน้อยที่สุดและผู้ประกอบการยังอยู่ได้ไม่ขาดทุนจนเลิกผลิต เพราะถ้าเลิกผลิตจากกระทบผู้บริโภคก็จะมีปัญหานอกจากบะหมี่แพงก็เป็นไม่มีของบริโภคเป็นปัญหาของขาดตลาด และมีการสำรวจตลาดทุกวันทั่วประเทศ ส่งรายงานมา และการปรับขึ้นกรมการค้าภายในสรุปเป็นตัวเลขทางสถิติ ซึ่งจะปรับขึ้นให้น้อยที่สุดให้กระทบผู้บริโภคให้น้อยที่สุด ใช้วิน-วิน โมเดลได้ผลประโยชน์อยู่ร่วมกันได้ทั้งสามฝ่าย"