น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เมื่อไม่นานมานี้ได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกลางที่รวบรวมช่องการทางการให้บริการของภาครัฐที่สำคัญไว้เป็นแหล่งเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนดาวน์โหลดและใช้บริการแอพพลิเคชันทางรัฐ เพื่อเข้าถึงบริการของหน่วยงานต่างๆ อย่างสะดวกสบาย กว่า 65 บริการ โดยสามารถดาวน์โหลดได้จากทั้ง App Store สำหรับผู้ใช้เครื่องมือสื่อสารระบบ iOS และ Google Play สำหรับผู้ใช้ระบบ Android
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า แอพพลิเคชันทางรัฐ ให้บริการทั้งการค้นหาข้อมูลและรับบริการภาครัฐ การยื่นคําขอ จองคิว ตรวจสอบสิทธิต่างๆ เช่น การตรวจสอบสิทธิที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล อย่างการเช็คข้อมูลเครดิตบูโร เช็คสิทธิเลือกตั้ง การแจ้งเหตุไม่ไปเลือกตั้ง ข้อมูลใบขับขี่ บัตรประจำตัวคนพิการ สิทธิประโยชน์ อสม. ส่วนบริการด้านการศึกษา สามารถขอหนังสือรับรองผล O-Net ได้
ตรวจสอบสิทธิประโยชน์หรือสวัสดิการ อาทิ เงินอุดหนุนเด็ก ตรวจสอบข้อมูลเงินอุดหนุนและเงินสงเคราะห์ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ การแจ้งเหตุด่วน เหตุร้ายหรือปัญหาสังคม ข้อมูลกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.) การกู้ยืมเงินเพื่อคนพิการ การตรวจสอบสิทธิประกันสังคม สิทธิหลักประกันสุขภาพ
นอกจากนี้ ยังมีบริการข้อมูลตรวจสอบใบสั่งจราจร ข้อมูลทะเบียนรถ การจองคิวอบรมใบขับขี่ บริการตรวจสอบและชำระเงินค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ตรวจสอบข้อมูลที่ดิน แจ้งเอกสารหาย ตรวจสอบบุคคลล้มละลาย ตลอดจนบริการยุติธรรมใส่ใจ อาทิ การขอรับเงินช่วยเหลือของผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา การวางเงินประกันขอปล่อยตัวชั่วคราว การขอเงินเยียวยากรณีถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน เป็นต้น
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า แอพพลิเคชันทางรัฐ ได้รับการพัฒนาโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) โดยเป็นการพัฒนาภายใต้ แผนแม่บทพอร์ทัลกลางเพื่อประชาชนระยะ 3 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เรื่องการบริการประชาชนและประสิทธิภาพภาครัฐ (พ.ศ.2561 – 2580) ในด้านการพัฒนาการให้บริการภาครัฐผ่านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ
แผนแม่บทพอร์ทัลกลางฯ ดำเนินการระหว่างปี 2564-2566 ซึ่งขณะนี้อยู่ใน ระยะที่ 2 หรือ ระยะเติมเต็ม ที่ให้บริการขยายขอบเขตครอบคลุมบริการยอดนิยมมากกว่า 60 บริการ ส่วนระยะที่3 ระยะต่อยอด ในปีงบประมาณ 2566 จะครอบคลุมงานบริการเฉพาะทาง อาทิ การเงินและภาษี การเดินทาง ความมั่นคงปลอดภัย ที่อยู่อาศัยและที่ดิน การทำงาน การเกษตร การศึกษา สิทธิพลเมือง ทะเบียนราษฎร สิ่งแวดล้อม สิทธิและสวัสดิการขั้นพื้นฐาน เช่น การแจ้งเกิด ข้อมูลทางด่วนแก้หนี้ การขอเงินทุนกู้ยืมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านการเกษตร การหางานสำหรับคนพิการ การจองเลขทะเบียนรถยนต์ และการขอความช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน เป็นต้น