พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ดำเนินโครงการประชารัฐเพื่อวิสาหกิจชุมชน หรือร้านประชารัฐสุขใจ จำนวน 148 แห่งทั่วประเทศมาตั้งแต่เดือน เม.ย.2559 เพื่อเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าโอทอปของชุมชน และให้บริการข้อมูลการท่องเที่ยวในท้องถิ่น พบว่าได้รับความสนใจจากประชาชนจับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 มียอดจำหน่ายตั้งแต่ เม.ย.-ธ.ค.รวมทั้งสิ้น 18,727,727.50 บาท เฉลี่ย 40,648.14 บาท ต่อเดือน มีวิสาหกิจชุมชนได้รับประโยชน์กว่า 16,000 ชุมชน
ส่วนในปีนี้เพียง 5 เดือน มียอดจำหน่ายรวมแล้วกว่า 12,290,000 บาท ตั้งเป้าทั้งปีสร้างรายได้ 50 ล้านบาท โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก คือ อาหารแปรรูป ผักผลไม้ออแกนิค และของใช้ของฝากจากชุมชนแต่ละจังหวัด อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวร้านประชารัฐสุขใจใน กทม.ถูกปล่อยทิ้งโดยไม่เปิดจำหน่ายสินค้านั้น ความจริงรัฐบาลมุ่งหวังให้ประชาชนทั่วประเทศทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด มีโอกาสซื้อหาและจำหน่ายสินค้าของท้องถิ่นได้อย่างเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้ ร้านประชารัฐสุขใจเป็นโครงการภายใต้มาตรการกระตุ้นการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาล มีที่ตั้งอยู่ในปั๊มปตท.ในภาคเหนือ 34 แห่งภาคกลาง 36 แห่ง ภาคตะวันออก 14 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 37 แห่ง และภาคใต้ 27 แห่ง โดยแต่ละแห่งจะคัดสรรสินค้าโอท็อปเด่นของจังหวัด ทั้งอาหาร ผลผลิตทางการเกษตร สินค้าที่ระลึก ของใช้ของฝาก ของใช้ในครัวเรือนมาวางจำหน่าย