รัฐบาลมุ่งหน้ายกระดับตลาดข้าวไทยด้วยการสร้างความเข้มแข็งให้ภาคเกษตร พร้อมสานความร่วมมือกับมิตรประเทศอย่างต่อเนื่อง
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม Thailand Rice Convention 2017 พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การค้าข้าวไทยและทิศทางในอนาคต” ว่า “ข้าว”เป็นพืชเศรษฐกิจหลักและเป็นสินค้าส่งออกสำคัญที่สร้างรายได้มาอย่างยาวนานของไทย รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาข้าวคงเหลือสต็อก ด้วยยุทธศาสตร์และแผนการระบายข้าวอย่างรอบด้าน คำนึงถึงผลกระทบต่อตลาดและเกษตรกร ซึ่งได้ทยอยระบายข้าวตามกรอบยุทธศาสตร์การระบายข้าวแล้วประมาณ 13 ล้านตัน มูลค่ารวมกว่า 112,000 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายที่จะระบายข้าวที่เหลือให้หมดในช่วงของรัฐบาลนี้โดยไม่ให้เกิดผลกระกับตลาดข้าว ขณะเดียวกันมุ่งแก้ไขปัญหาความยากจนของชาวนาด้วยการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ข้าวไทยอย่างชัดเจน ให้เกิดความยั่งยืนและหลากหลายเพิ่มมูลค่าให้ข้าวไทย ด้วยแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่ปลูกข้าวและพืชเกษตรอื่นๆ การลดต้นทุนการผลิต เช่น การทำนาแปลงใหญ่ การยกระดับคุณภาพผลผลิต การพัฒนานวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีเพื่อการผลิต การขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม ภายใต้โมเดล “ประเทศไทย 4.0” ผลักดันให้ชาวนามีความรู้ในการทำการค้า การจัดการด้านโลจิสติกส์ เพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการทุกห่วงโซ่และสร้างความเป็นธรรมในระบบการค้าข้าว และร่วมกันจัดทำแผนและทบทวนยุทธศาสตร์ข้าวทุก 5 ปี เน้นสร้างความสมดุลในอุปสงค์และอุปทานของข้าว ให้การตลาดนำการผลิต (Demand Driven) เพิ่มดำเนินการเชิงรุกด้วยการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และสร้างความร่วมมือกับทุกประเทศผู้ผลิตข้าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการบรรลุเป้าหมายที่สำคัญคือการมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน หรือการร่วมมือประชารัฐ ที่จะสามารถช่วยขับเคลื่อนข้าวไทยสู่มิติใหม่ รวมถึงการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อความเติบโตอย่างมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน และต้องเชื่อมโยงวัฏจักรข้าวไทยกับการท่องเที่ยววิถีชุมชน หรือการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ดังนั้นแม้ระบบการค้าของโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่หากสามารถปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลง ก็จะเป็นการเปิดโอกาสทางการค้าใหม่ โดยเฉพาะข้าวไทยที่สามารถพัฒนาต่อยอดให้เกิดธุรกิจใหม่ๆ ในเชิงสร้างสรรค์ขึ้นได้