หนุ่มกู้ภัยน้ำใจงาม พบหนุ่มใหญ่คนเดินเท้าเพื่อกลับบ้าน ที่ โคราช ในสภาพที่อ่อนล้าซื้ออาหารน้ำพร้อมตั๋วรถโดยสารกับเงินติดตัวเล็กน้อยส่งกลับบ้านโดยสวัสดีภาพ
เรื่องราวของคนมีน้ำใจ ที่มีคนนำมาเปิดเผย พร้อมคลิปที่ นายพาณิชย์ โอปอ อาสาสมัครกู้ภัย มูลนิธิสัจจะพุทธธรรม แห่งปะเทศไทย กบินทร์บุรี รหัสนามเรียกขาน 176 จุดบริการบ้านโคก ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ให้การช่วยเหลือ นายธีรวรรณ รังกระโทก อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 2 ต.เสิงสาง อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ขณะกำลังปฎิบัติหน้าที่ภายในจุดดังกล่าว พบเห็นนายธีรวรรณ เดินสะพายเป้หลังเดินอยู่ริมถนนมุ่งหน้าไปทาง จ.นครราชสีมา แวะร้านค้า เพื่อขอซื้อข้าวเปล่า 10 บาท และขอน้ำปลาเพื่อเอาไปกินกับข้าว ซึ่งเป็นจังหวะที่ตนเองกำลังจะออกไปซื้ออะไรมาทาน จึงได้ยินการพูดคุยระหว่างนายธีรวรรณ กับแม่ค้า จึงรู้ว่า นายธีรวรรณ ไปทำงานสวนเงาะที่ จ.จันทบุรี แต่นายจ้างรับคนงานใหม่ แต่มีปัญหาอยู่ด้วยกันไม่ได้จึงตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้วขึ้นรถจาก จันทบุรี มาลงที่ บขส.กบินทร์บุรี เพื่อจะต่อรถกลับบ้านที่เสิงสาง แต่เงินหมดเพราะจ่ายค่ารถจาก จ.จันทบุรี เหลือแค่ 10 บาท จึงตัดสินใจเดินเท้ามากว่า 10 กิโล เพื่อกลับบ้าน จน มาถึงร้านขายข้าวแกง จึงแวะขอซื้อข้าวเปล่ากับน้ำปลาเพื่อกินระหว่างเดินทาง ปะทังความหิวโดยไม่รู้ว่าจะอีกนานเท่าไหร่จึงจะถึงจุดหมาย
แต่เมื่อได้พบ เจ๊กิ่งแก้ว สร้อยวรรณ ร้านอาหาร ครัวดารา แม่ค้าใจดี ซึ่งเปิดเผยว่า รู้ว่านายธีรวรรณ กำลังมีปัญหา ไม่มีเงินแม้แต่ค่ารถ สงสารจึงไม่คิดเงินแถมทำข้าวผัดกระเพรากับน้ำให้ติดตัวระหว่างเดินทาง นานยธีรวรรณ บอกว่า ทขอน้ำปลาเยอะเดี๋ยวจะแวะหาผักข้างถนนมาจิ้มกินกับข้าว
นายพาณิชย์ โอปอ อาสาน้ำใจงามเปิดเผยต่อไปด้วยว่า หลังนายธีรวรรณ เดินออกจากร้านอาหาร จึงขับตามดูว่า เป็นคนลวงโลกหรือไม่ หลังขับตามดูระยะหนึ่ง ก็พบว่า นายธีรวรรณ ไม่โกหก จึงเข้าช่วยเหลือ นำไปส่ง รถ บขส. สี่แยกสามทหาร แต่ตัวนายธีรวรรณ ปฏิเสธ อ้างเกรงใจ ตนจึงพยายามคะยั้นคะยอจนใจอ่อนยอมให้ช่วยเหลือ นำไปส่งตนจึงให้แล้วให้เงินติดตัวไป 100 บาท หลังจัดการซื้อตัวให้แล้วก็ส่งขึ้นรถที่กำลังจะออกพอดี ทั้งยังย้ำว่าให้เอาเงิน100 บาท ไปจ้างรถเข้าบ้านที่ห่างจากตัว จ.นครราขสีมา อีกพอสมควร ซึ่งนายธีรวรรณ บอกว่า ค่ารถไปจาก บขส.นครราชสีมา 70 บาท ซึ่งนายธีรวรรณ ขอบคุณฯและเดินชึ้นรถเดินทางกลับบ้านไม่ต้องเดินเท้าต่อไป
นายพาณิชย์ โอปอ อาสาน้ำใจงามบอกว่า การทำความดี ทำแล้วมีความสุข ซึ่งตนเข้ามาเป็นอาสาสมัครก็เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ได้รับความเดือดร้อน การช่วยเหลือนายธีรวรรณ ช่วยอย่างเต็มใจไม่หวังสิ่งใดตอบแทน พร้อมกับฝากไปยังนายจ้าง ขอให้ดูแลเค้าลุกจ้างเพราะอย่างน้อยลูกจ้างก็คือแรงงานที่ทำงานให้เรา แม้จะเป็นการว่าจ้างก็ตามทีก็ควรที่จะดูแลให้ทั่วถึง
ทีมข่าวปราจีนบุรี