นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ที่ปรับขึ้นไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับขีดความสามารถในแต่ละจังหวัดนั้น ก็ถือว่าเป็นไปตามภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น และเงินเฟ้อด้วย ซึ่งมองว่ามีความเหมาะสมแล้ว แต่ในส่วนของผู้ประกอบการก็ต้องเร่งปรับตัว เพื่อรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมานับตั้งแต่ต้นปี 2565 ต้นทุนในภาคการผลิตเพิ่มขึ้นมาตลอด ตั้งแต่ราคาวัตถุดิบ พลังงาน ค่าขนส่ง และการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ทำให้มีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นมา ตอนนี้ก็มาถึงค่าจ้างแรงงานอีก ซึ่งทั้งหมดส่งผลต่อการบริหารจัดการต้นทุนของภาคธุรกิจ
“ผลกระทบจะมากน้อยเท่าใด ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละธุรกิจ ซึ่งอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น อาทิ สิ่งทอ อาหาร อิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มนี้ถือเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากกว่าภาพรวม โดยในส่วนของผู้ส่งออกไทย ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าหรือไม่ ต้องบอกว่าปกติแล้วการผลิตสินค้าในเดือนสิงหาคม-กันยายน จะรอส่งมอบในไตรมาส 4/2565 อยู่แล้ว ทำให้ต้นทุนสามารถบริหารจัดการได้ มีผลกระทบบ้าง แต่ยังสามารถบริหารจัดการได้” นายชัยชาญ กล่าว
นายชัยชาญ กล่าวว่า ในปี 2566 เป็นปีที่มองว่าผลกระทบในเรื่องต้นทุนจะเพิ่มสูงขึ้นหรือสูงแบบที่สุด เพราะเป็นช่วงที่ต้นทุนต่างๆ ถูกปรับใหม่นำเข้ามาคำนวณด้วยกันทั้งหมด ทำให้แต่ละประเภทสินค้าจะถูกกระทบมากน้อยขนาดไหน ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการ (ดีมานด์) และซัพพลาย ว่าจะมีสอดคล้องกันมากน้อยอย่างไร ผู้ประกอบการจะสามารถปรับราคาสินค้าขึ้นลงได้เท่าใด ขึ้นอยู่กับกลไกทางการตลาดด้วย โดยผู้ประกอบการต้องปรับตัวเพื่อคามอยู่รอด และเดินหน้าธุรกิจได้ต่อ อาทิ การปรับปรุงกระบวนการผลิตและการทำงานภายในให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การปรับสัดส่วนกำลังคนให้เหมาะสมกับการผลิต รวมถึงการนำเข้าเครื่องจักรทดแทนแรงงานคนมากขึ้น