รายงานการตรวจสอบการดำเนินงาน การจัดให้มีบริการศูนย์อินเทอร์เน็ตชุมชนและบริการศูนย์อินเทอร์เน็ตโรงเรียน (USO NET)คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแหงชาติ (กสทช.)
การจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (Universal ServiceObligation : USO) เดิมเป็นภารกิจของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ซึ่ง กทช.มีเจตนารมณ์มุ่งหมายให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมดําเนินการขยายบริการโทรคมนาคมพื้นฐานไปยังพื้นที่เป้าหมาย ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2553 ได้มีการปรับเปลี่ยนองค์กร การดําเนินงาน USO จึงเป็นภารกิจหลักของสํานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 มาตรา 17 บัญญัติให้กทช. มีหน้าที่จัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง
การจัดให้มีบริการ USO ระยะที่ 2 ที่ดําเนินการในปีพ.ศ. 2553 กทช. ได้ดําเนินงาน ,การจัดให้มีศูนย์อินเทอร์เน็ตชุมชนและศูนย์อินเทอร์เน็ตโรงเรียน เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งที่ทําให้ประชาชนและนักเรียนในชนบทได้มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร การศึกษาได้เท่าเทียมกัน ทั่วถึงครอบคลุม และลดความเหลื่อมล้ําลง โดยบริษัทผู้รับใบอนุญาตที่ได้รับอนุมัติดําเนินการจัดตั้งศูนย์อินเทอร์เน็ตชุมชนและศูนย์อินเทอร์เน็ตโรงเรียนจํานวน 6 ราย ประกอบด้วย บริษัท กสท โทรคมนาคมจํากัด (มหาชน) (CAT) บริษัท ทีโอทีจํากัด (มหาชน) (TOT) บริษัท ทริปเปิลทีบรอดแบนด์จํากัด
(มหาชน) (3BB) บริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จํากัด (JAS) บริษัท เอไอเอ็น โกลบอลคอม จํากัด (AIN)และ บริษัท ซุปเปอร์บรอดแบนด์เน็ทเวิร์ค จํากัด (SBN) มีพื้นที่เป้าหมายจํานวน 937 แห่ง
จากการสุ่มตรวจสอบศูนย์อินเทอร์เน็ตชุมชนและศูนย์อินเทอร์เน็ตโรงเรียนที่เปิดให้บริการแล้วไม่น้อยกว่า 3 – 4 เดือน จํานวน 121 แห่ง พบว่า ศูนย์อินเทอร์เน็ตจํานวน 73 แห่งที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ของอุปกรณ์บางรายการเนื่องจากเกินความต้องการ เจ้าหน้าที่ใช้งานไม่เป็นไม่มีงบประมาณจัดซื้อหมึกพิมพ์สําหรับเครื่องพิมพ์และกําลังไฟฟ้าไม่พอ รวมมูลค่า 5.18 ล้านบาทดังนี้
ความเร็วอินเทอร์เน็ตไม่เป็นไปตามข้อกําหนดและเงื่อนไขที่กทช. ระบุไว้ จากการสุ่มตรวจสอบศูนย์อินเทอร์เน็ตชุมชนและศูนย์อินเทอร์เน็ตโรงเรียนจํานวน 124 แห่ง พบว่า มีศูนย์อินเทอร์เน็ตที่ไม่สามารถทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตได้จํานวน 14 แห่ง หรือคิดเป็นร้อยละ 11.29 เนื่องจากระบบอินเทอร์เน็ตไม่สามารถใช้งานได้และมีศูนย์อินเทอร์เน็ตที่สามารถทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตได้จํานวน 110 แห่ง ในจํานวนนี้พบว่าศูนย์อินเทอร์เน็ต ชุมชนและศูนย์อินเทอร์เน็ตโรงเรียน จํานวน 68 แห่ง หรือคิดเป็นร้อยละ 61.82 มีคุณภาพความเร็ว
อินเทอร์เน็ตต่ํากว่ามาตรฐานที่กทช. กําหนด
ศูนย์อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ไม่จัดทําทะเบียนคุมครุภัณฑ์และการซ่อมบํารุง จากการตรวจสอบเอกสารศูนย์อินเทอร์เน็ตชุมชนและศูนย์อินเทอร์เน็ตโรงเรียน จํานวน 124 แห่ง พบว่า ศูนย์อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ไม่มีการจัดทําทะเบียนคุมอุปกรณ์ภายในศูนย์อินเทอร์เน็ต
โดยศูนย์อินเทอร์เน็ตจํานวน 111 แห่ง หรือคิดเป็นร้อยละ 89.52 ไม่ได้มีการจัดทําทะเบียนคุมครุภัณฑ์และศูนย์อินเทอร์เน็ตจํานวน 120 แห่ง หรือคิดเป็นร้อยละ 96.77 ไม่ได้มีการจัดทําทะเบียนคุม การซ่อมและบํารุงรักษา ซึ่งจะทําให้มีผลต่อการวางแผนสําหรับการดูแลบํารุงรักษาและติดตามปัญหา การจัดให้มีบริการศูนย์อินเทอร์เน็ตชุมชนและบริการศูนย์อินเทอร์เน็ตโรงเรียน อุปสรรคของการดําเนินงานของศูนย์อินเทอร์เน็ตตามโครงการ และส่งผลเสียต่อการใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่อาจไม่มีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานน้อยลงโดยอาจไม่ได้รับการบํารุงรักษาตามระยะเวลาที่เหมาะสม